ที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.ไต้หวัน) ตรวจพบร้านค้าในอี๋หลานมีแรงงานข้ามชาติที่ทำงานนอกเหนือจากใบอนุญาติ และจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยนายจ้างจะต้องเสียค่าปรับเป็นเงินระหว่าง 30,000 ถึง 150,000 เหรียญไต้หวัน
สตม.ไต้หวันได้ออกแถลงการณ์ว่า ทีมพิเศษมณฑลอี๋หลานของสตม.ไต้หวันได้รับแจ้งว่า ร้านขายซาลาเปาที่มีชื่อเสียงและร้านขายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ในเมืองเจียวซีมณฑลอี๋หลานมีการจ้างแรงงานช้ามชาติที่ทำงานนอกเหนือจากใบอนุญาติ หลังจากเข้าไปตรวจสอบก็พบนายจ้างทั้งหมด 4 ราย แรงงานฟิลิปปินส์ 2 ราย เวียดนาม 2 ราย และอินโดนิเซีย 1 ราย
ทีมพิเศษมณฑลอี๋หลานกล่าวว่า เมื่อทีมเจ้าหน้าที่สืบสวนเดินทางไปถึง ก็ได้เห็นแรงงานข้ามชาติจำนวนหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นสัญชาติอะไร และไม่รู้ว่าจะใช้ภาษาอะไรในการสื่อสาร แต่หลังจากทราบแล้วก็ได้ทำการสอบถามและพบว่าเดิมทีทั้งหมดเป็นแรงงานข้ามชาติที่สมัครเข้ามาทำงานที่ไต้หวันในตำแหน่งผู้อนุบาล โดยแรงงานข้ามชาติจะต้องช่วยเหลืองานที่ร้านของบ้านที่ตนเองเป็นผู้อนุบาลตั้งแต่เช้าจนเย็น ช่วยทำความสะอาด ช่วยขาย หลังจากที่แรงงานข้ามชาติโดนจับต่างบอกว่า “คุณยายหิว เลยมาทำซาลาเปาให้ทาน” ซึ่งคำตอบพวกนี้ สตม.ไต้หวันฟังมาบ่อยแล้ว หล หลังจากการตรวจสอบก็พบว่า พวกเค้าจะได้รายได้ 7-8,000 เหรียญต่อเดือน ซึ่งเป็นการได้รับรายได้ 2 ทาง
สตม.ไต้หวันเผยว่า ในช่วงที่ไต้หวันมีรายได้สูง คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยเต็มใจทำงานที่หนัก นายจ้างหลายคนจึงนิยมจ้างผู้อนุบาลชาวต่างชาติมาดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งช่วยดูแลร้านอาหาร หรือร้านค้าของครอบครัว นอกจากการดูแลผู้สูงอายุแล้ว พวกเค้ายังต้องทำงานอื่นๆ อีก เช่น ความสะอาด ทิ้งขยะ ล้างจาน ขายของ เป็นต้น ซึ่งเป็นงานที่นอกเหนือจากที่ระบุในใบอนุญาติการทำงาน จึงเป็นการละเมิดบทบัญญัติของมาตรา 57 วรรค 1 ของพระราชบัญญัติการบริการการจ้างงาน “การจ้างงานโดยไม่มีใบอนุญาติการทำงาน” และวรรค 3 “ทำงานไม่ตรงกับใบอนุญาติการทำงาน”ก็จะโดนปรับเป็นเงินระหว่าง 30,000 ถึง 150,000 เหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ หากยังไม่ปรับปรุงก่อนระยะเวลาที่กำหนด กระทรวงแรงงานไต้หวันจะยกเลิกใบอนุญาตการจ้างงานของนายจ้างทันที