หัวเขาแดงและแหลมสน...สองยุคเก่าเมืองสงขลา

泰文字幕-2024新台灣之光-阮秋河

หัวเขาแดงและแหลมสน...สองยุคเก่าเมืองสงขลา

การจัดงานฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่ 50 ในปี 2567 ที่ผ่านมา ได้กระตุ้นความสนใจในประวัติศาสตร์เมืองสงขลาอีกครั้ง สงขลานั้นมีประวัติการสร้างเมืองยาวนาน แบ่งเป็น 3 ยุค ตั้งแต่ฝั่งหัวเขาแดง ฝั่งแหลมสน จนถึงปัจจุบันคือฝั่งบ่อยาง ในยุคแรก เมืองสงขลาถูกสร้างขึ้นที่หัวเขาแดง ซึ่งเป็นทำเลที่เหมาะสมสำหรับการค้าขาย มีท่าเรือขนาดใหญ่รองรับเรือสำเภา ส่งผลให้หัวเขาแดงกลายเป็นเมืองท่าค้าขายสำคัญในยุคนั้นป้อมหมายเลข 9 ท่ามกลางดงยางนาต่อมามีการย้ายเมืองลงไปทางใต้ที่แหลมสน และในปัจจุบันย้ายไปที่ฝั่งบ่อยาง เมืองสงขลาฝั่งหัวเขาแดงและแหลมสนยังคงมีโบราณสถานหลายแห่ง เช่น ป้อมหมายเลข 8 เจดีย์ขาวดำ และวัดสุวรรณคีรี ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานที่เหล่านี้เป็นจุดสำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวความรุ่งเรืองของสงขลาในอดีตและยังคงรักษาความงดงามไว้ให้ผู้ที่สนใจได้ไปเยี่ยมชม.

'ลอยกระทง 2567' คพ. แนะ งดลอยกระทงขนมปังในแหล่งน้ำปิด ทำน้ำเน่าเสีย

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ในปี 2566 กรุงเทพมหานครจัดเก็บกระทงได้ทั้งหมด 639,828 ใบ ซึ่งเป็นกระทงธรรมชาติ 618,951 ใบ และกระทงโฟม 20,877 ใบ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 12 เพื่อช่วยลดปริมาณขยะในงานลอยกระทงปี 2567 จึงขอเชิญชวนประชาชนใช้กระทงขนาดเล็กและลอยกระทงร่วมกัน เช่น ลอยเป็นคู่ ลอยเป็นครอบครัว หรือเป็นกลุ่ม เพื่อให้เกิดขยะน้อยลงกรมควบคุมมลพิษ แนะ ลอยกระทงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม งดลอยกระทงขนมปังในแหล่งน้ำปิด ทำให้น้ำเน่าเสียนอกจากนี้ การลอยกระทงในสถานที่ปิดที่หน่วยงานจัดเตรียมไว้ให้จะช่วยให้การจัดเก็บง่ายขึ้น และการใช้กระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติก็สามารถย่อยสลายได้โดยง่าย ซึ่งไม่แนะนำให้ใช้กระทงขนมปังในแหล่งน้ำปิด เนื่องจากเมื่อขนมปังเปื่อยจะเกิดการสะสมของจุลินทรีย์และทำให้น้ำเน่าเสีย อีกทั้งยังขอเชิญชวนประชาชนใช้ภาชนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและร่วมคัดแยกขยะอาหารเพื่อกำจัดอย่างถูกวิธี.