องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN เปิดเผยรายชื่อ สิ่งมีชีวิตที่ถูกขึ้นบัญชีแดงในฐานะสิ่งมีชีวิตเสี่ยงสูญพันธุ์มีมากกว่า 45,000 สายพันธุ์ มากกว่าปีที่แล้วถึง 1,000 ชนิด
ปัญหาหลักที่ทำให้สายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์มีจำนวนมากขึ้นมีด้วยกันหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” การรุกรานของชนิดพันธุ์ต่างถิ่น และกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การค้าที่ผิดกฎหมาย และการขยายโครงสร้างพื้นฐานบุกรุกพื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์
แม้จะมีรายชื่อสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังมีเรื่องน่ายินดีที่มีสายพันธุ์หนึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น นั่นคือ “แมวป่าไอบีเรีย”
แมวป่าไอบีเรีย เคยอยู่ในลิสต์รายชื่อแมวป่าสายพันธุ์หนึ่งที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดในโลก ตามรายงานของสมาคมระหว่างประเทศเพื่อแมวใกล้สูญพันธุ์ในแคนาดา พบว่า ช่วงระหว่างปี 1985-2001 จำนวนประชากรของแมวป่าลดลงถึง 87% เหลือเพียง 62 ตัวเท่านั้น และจำนวนตัวเมียในช่วงวัยเจริญพันธุ์ลดลงมากกว่า 90%
แต่ด้วยความพยายามในการอนุรักษ์ทำให้จำนวนของแมวป่าไอบีเรียค่อยๆ เพิ่มขึ้นจาก 62 ตัวในปี 2001 กลายเป็น 648 ตัวในปี 2022 และปัจจุบันมีมากกว่า 2,000 ตัว／DeviantArt
แต่ด้วยความพยายามในการอนุรักษ์ทำให้จำนวนของแมวป่าไอบีเรียค่อยๆ เพิ่มขึ้นจาก 62 ตัวในปี 2001 กลายเป็น 648 ตัวในปี 2022 และปัจจุบันมีมากกว่า 2,000 ตัวแล้ว ทำให้แมวป่าไอบีเซียถูกระดับจากสัตว์ใกล้การสูญพันธุ์ (EN) มาเป็นเกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ (VU) แทน
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรมของแมวป่า โดยการย้ายพวกมันไปยังพื้นที่ใหม่ และผสมพันธุ์ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา มีการนำแมวป่ามากกว่า 400 ตัวย้ายไปอยู่อาศัยในโปรตุเกส และสเปน
ฟรานซิสโก ฮาเวียร์ ซัลเซโด ออร์ติซ ผู้นำการอนุรักษ์แมวป่าไอบีเรีย กล่าวว่า “นี่คือการฟื้นฟูสายพันธุ์แมวครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยการอนุรักษ์”
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงต้องทำงานหนักต่อไปเพื่อฟื้นฟูสายพันธุ์นี้ เพราะความผันผวนของจำนวนเหยื่อ การรุกล้ำ และอุบัติเหตุบนท้องถนนยังเป็นปัจจัยหลักที่คร่าชีวิตแมวป่าอยู่
“ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ เพื่อให้แน่ใจว่าประชากรแมวป่าไอบีเรียจะอยู่รอดได้ในธรรมชาติ” ซัลเซโด ออร์ติซ กล่าว
