img
:::

''ป้องกันการขาดออกซิเจนอย่างมีความสุข'' ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ แพทย์แนะว่า ''การเดิน'' สามารถช่วยชีวิตได้

''ป้องกันการขาดออกซิเจนอย่างมีความสุข'' ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ แพทย์แนะว่า ''การเดิน'' สามารถช่วยชีวิตได้

เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่】ผู้แปล/นงค์รักษ์ เหล่ากอคำ (李慧毓)
สถานการณ์การแพร่ระบาดในไต้หวันยังไม่ได้ชะลอตัวลง และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 100 ราย ผู้เสียชีวิตหลายคนได้รับการยืนยันว่าติดโควิดหลังจากที่ได้เสียชีวิตแล้ว สาเหตุหลัก คือ "การขาดออกซิเจน" ซึ่งตัวผู้ป่วยเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองหายใจหอบอยู่ เมื่อท่านเริ่มมีอาการหายใจลำบากเกิดขึ้น จะต้องได้รับการรักษาด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจทันที ทำให้หลายคนแย่งซื้อเครื่องออกซิเจนมาเก็บไว้ แต่ถ้าหาซื้อไม่ได้ ท่านยังสามารถใช้การตรวจวัดการหายใจ และทดสอบหลังการเดิน 6 นาที แล้วตรวจสอบดูว่าร่างกายขาดออกซิเจนหรือไม่
ดร.ซูอิฟง ภาวะขาดออกซิเจน จำเป็นจะต้องรักษาด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจ มิฉะนั้นอาจทำให้เสียชีวิตอย่างกะทันหันได้/ภาพจาก เมืองหนังสือHami

อ่านข่าวเพิ่มเติม:สายต่อต้านการแพร่ระบาด "1922" ถูกโทรเข้าจนสายไหม้ ! Chen Shizhong ตอบคำถามที่พบบ่อย 3 ข้อเป็นการส่วนตัว

ดร.ซูอิฟง ศัลยแพทย์ทรวงอกที่โรงพยาบาลหยางหมิงกล่าวว่า ภาวะขาดออกซิเจนแบบถอยกลับหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ภาวะขาดออกซิเจนที่มีความสุข" สำหรับผู้ป่วยโควิดอาจมีภาวะขาดออกซิเจน แต่ไม่มีอาการหายใจลำบาก ดังนั้นจึงไม่ได้เข้ารับการรักษาพยาบาล เมื่อผู้ป่วยมีอาการต่างๆที่คล้ายคลึงกันนี้ หรืออยู่ในสถานการณ์วิกฤติมาก จำเป็นจะต้องรักษาด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจ มิฉะนั้นอาจทำให้เสียชีวิตอย่างกะทันหันได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ส่งเสริมให้แรงงานต่างชาติเข้ารับการตรวจสอบ เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

หากผู้ป่วยไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยต้องสังเกตสถานะออกซิเจนในเลือดของตนเอง/ภาพจาก UDN.COM

หากผู้ป่วยไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากจำเป็นจะต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ผู้ป่วยต้องสังเกตสถานะออกซิเจนในเลือดของตนเอง ถึงจะสามารถช่วยเหลือตนเองไว้ได้ทัน นอกจากนี้หากคุณหายใจเข้ามากกว่า 30 ครั้งต่อนาที คุณควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด หรือสามารถลองใช้วิธี "ทดสอบการเดิน 6 นาที" โดยเดินด้วยความเร็วปกติเป็นเวลา 6 นาทีก่อน หากเดินเสร็จรู้สึกว่าหายใจมีเสียงหอบและหน้ามืด แสดงว่าขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง คุณต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading