ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาดกลาง ประกาศเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนว่า วันนี้มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันใหม่ 7 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ และในวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
ศูนย์บัญชาการฯ ชี้แจงว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย แบ่งเป็น ชาย 4 ราย หญิง 3 ราย อายุระหว่าง 10 ถึง 70 ปี โดยเดินทางมาจากอินโดนีเซีย (2 ราย ได้แก่ กรณีที่ 16644 กรณีที่ 1647) กัมพูชา (กรณีที่ 16645) เยอรมนี (กรณีที่ 16646) สหรัฐอเมริกา (กรณีที่ 16648) เวียดนาม (กรณีที่ 16649) จีน (กรณีที่ 16650) วันที่เดินทางเข้าประเทศคือระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายนถึง 21 พฤศจิกายน (2021) ทั้งหมดมีรายงานการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนเดินทาง ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมตามเอกสารแนบของข่าวประชาสัมพันธ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม: เทศกาลลอยกระทง ประจำปี 64 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและไอคอนสยาม ร่วมสืบสานประเพณีไทยอันทรงคุณค่า
3 พ.ย. มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 ราย! เดินทางเข้ามาจากอินโดนีเซีย กัมพูชา เยอรมนี สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และจีน ภาพจาก/ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาดไต้หวัน
จากสถิติของศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดของโรค ขณะนี้ในประเทศมีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมด 4,344,910 ราย (ไม่รวม 4,327,506 ราย) ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสมในไต้หวันจำนวน 16,539 ราย ประกอบด้วย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำนวน 1,895 ราย ผู้ติดเชื้อในประเทศมีจำนวน 14,590 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อจากกองเรือตุนมู่ (敦睦) 36 ราย ผู้ติดเชื้อบนเครื่องบิน 3 ราย ไม่ทราบสาเหตุอีก 1 ราย อยู่ในระหว่างการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดเชื้ออีก 14 ราย ยอดรวมหมายเลขว่างทั้งหมด 111 ราย ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งหมด 848 ราย แบ่งเป็น เสียชีวิตจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศ 836 ราย ได้แก่ ในเมืองนิวไทเป 412 ราย ในเมืองไทเป 321 ราย ในเมืองจีหลง 29 ราย ในเมืองเถาหยวน 27 ราย ในเมืองจางฮั่ว 15 ราย ในเมืองซินจู๋ 13 ราย ในเมืองไถจง 5 ราย ในเมืองเหมียวลี่ 3 ราย ในเมืองอี๋หลานและเมืองฮัวเหลียน อย่างละ 2 ราย เมืองไถตง เมืองอวิ๋นหลิน เมืองไถหนาน เมืองหนานโถว และเมืองเกาสง อย่างละ 1 ราย ที่เหลืออีก 12 ราย เป็นผู้เสียชีวิตจากผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม: รีบดู! ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่อย่างถูกกฎหมาย แต่ไม่มีบัตรประกันสุขภาพ สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้
ศูนย์บัญชาการเรียกร้องให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันส่วนบุคคล เช่น สุขอนามัยของมือ มารยาทในการไอ และการสวมหน้ากากอนามัย พร้อมลดการเคลื่อนไหวกิจกรรมหรือการชุมนุมที่ไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการเข้าและออกในสถานที่แออัด หรือบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ อีกทั้งให้ความร่วมมืออย่างจริงจังกับมาตรการต่อต้านการแพร่ระบาดต่าง ๆ รวมไปถึงการปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันของชุมชนอย่างเคร่งครัด