กรมควบคุมโรคกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศคงที่ และมีแนวโน้มลดลง แต่จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้ออะดิโนไวรัส (Adenovirus) เพิ่มจำนวนขึ้น โดยปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีจำนวนสูงกว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่และคาดว่าจะมีแนวโน้มของการแพร่ระบาดในเดือนนี้
กรมควบคุมโรคได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ในสัปดาห์ที่แล้ว (3-9 พ.ย.) ในประเทศมีจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดที่ไปพบแพทย์ถึง 69,396 คน/ครั้ง อย่างไรก็ตามการตรวจทางเดินหายใจของผู้ป่วย ในอดีตมีการตรวจพบเชื้ออะดิโนไวรัสคิดเป็นเพียงประมาณ 17% เท่านั้น แต่ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตรวจพบมากกว่า 40% แซงหน้าไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นครั้งแรก
อะดิโนไวรัสเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหวัดโดยทั่วไป ไม่มียาเฉพาะสามารถใช้รักษาอาการได้ ทำได้แค่รักษาตามสภาพอาการ สำหรับการติดต่อผ่านของเหลว น้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระของผู้ป่วย ดังนั้นต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสกับผู้ป่วย
หลังการติดเชื้ออะดิโนไวรัสอาจทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ เยื่อบุตาอักเสบ กระเพาะและลำไส้อักเสบ เป็นต้น แม้ว่าจะไม่ค่อยเกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรง และก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อสุขภาพของผู้ป่วยที่เบากว่าเมื่อเปรียบเทียบกับไข้หวัดใหญ่ แต่ทำให้เกิดอาการ เช่น มีไข้ และไม่สบาย ซึ่งทารก ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้ป่วยที่มีโรคปอดหรือหัวใจมีแนวโน้มที่จะมีอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อ
กรมควบคุมโรคเตือนประชาชนให้รักษาสุขอนามัยของตนเอง เช่น รักษาความสะอาดของมือ ล้างมือให้สะอาด และสวมหน้ากากเมื่อคุณมีอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชูหรือผ้าเช็ดหน้าตอนจามหรือใช้แขนเสื้อแทน เมื่อพูดคุยกับคนอื่น ๆ ให้อยู่ห่าง 1 เมตรหรือมากกว่านั้น หากคุณมีอาการไม่สบายให้สวมหน้ากากอนามัย พักผ่อนอยู่ที่บ้าน เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อไวรัสไปสู่ผู้อื่น
กรมควบคุมโรคกล่าวว่า ในปีนี้รัฐบาลได้สนับสนุนการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จำนวน 6 ล้านโดส ซึ่งได้รับการยกระดับจากวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แบบ 3 สายพันธุ์เป็น 4 สายพันธุ์ โดยตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. เป็นต้นไป จะเริ่มฉีดให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. เป็นต้นไป จะเริ่มฉีดให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และเด็กเล็กก่อนวัยเรียน และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2020 เป็นต้นไป จะฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เหลือ
ขอให้ผู้ที่มีสิทธิ์รับสนับสนุนการฉีดวัคซีนจากรัฐให้รีบรับการฉีดวัคซีนตามระยะเวลาที่ระบุ เพื่อได้รับการป้องกันที่เพียงพอก่อนที่จะถึงช่วงการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์สนับสนุนการฉีดวัคซีนจากรัฐ ก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง เพื่อปกป้องตนเองและครอบครัว
จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้ออะดิโนไวรัสเพิ่มขึ้น