ทีมปฎิบัติการพิเศษมณฑลเจียอี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเขตภาคใต้ได้รับแจ้งว่า มีรถคันหนึ่งคอยรับแรงงานข้ามชาติที่หลบหนีไปทำงานจากหอพักแห่งหนึ่งในเมืองซินกั่ง ทีมปฎิบัติการพิเศษได้ทำการสืบสวนภาคสนามและค้นหาหลักฐานจนพบว่า ก่อนที่กลุ่มเป้าหมายจะเริ่มงานก็จะไปซื้ออาหารเช้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้เคียงอยู่เป็นประจำ และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจมณฑลเจียอี้บุกเข้าจับกุมในเวลา 6.00 น. ซึ่งสามารถจับกุมแรงงานข้ามชาติที่หลบหนี 3 ราย แรงงานประมงที่พำนักเกินกำหนด 4 ราย รวม 7 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวอินโดนิเซีย โดยทั้งหมดถูกนำตัวกลับไปสอบสวนเนื่องจากละเมิดกฎหมายการเข้าออกประเทศและกฎหมายการเข้าเมือง
ทีมปฎิบัติการพิเศษมณฑลเจียอี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสองคนแกล้งทำเป็นลูกค้าที่เดินเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อคอยสังเกตุกลุ่มเป้าหมายที่ยังคงหาซื้ออาหารเช้าโดยไม่รู้ว่ากำลังถูกจับตามองอยู่ ทันทีที่พวกเขาออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตและพร้อมที่จะขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่แกล้งทำเป็นลูกค้าก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่กำลังซุ่มตัวรอการจับกุมให้ทราบทันทีเพื่อล้อมสกัดรถคันดังกล่าว และสามารถจับผู้ที่พำนักในไต้หวันอย่างผิดกฎหมายได้ในคราวเดียวกัน หลังจากนั้นได้ตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ที่พำนักในไต้หวันเกินกำหนดตั้งแต่ 10 วัน 4 ปี และในระหว่างทำการตรวจสอบหลักฐาน อาม่าน หนึ่งในแรงงานที่ถูกจับกุมวัย 40 ปีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ตนเพียงแค่เลือกซื้ออาหารเช้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในตอนเช้าและไม่คิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่พาตัวพวกเค้ากลับไปยังทีมปฎิบัติการพิเศษและให้รับประทานอาหารเช้าให้อิ่มก่อน
จัง อวี้หลง (張玉龍) หัวหน้าทีมปฎิบัติการพิเศษมณฑลเจียอี้กล่าวว่า นอกเหนือจากการดำเนินการสืบสวน ดูแล และส่งผู้ที่พำนักอย่างผิดกฎหมายกลับประเทศ เราจะดูแลอย่างดีและให้ความเคารพ ในขณะเดียวกันก็ขอเรียกร้องให้ชาวไต้หวันไม่จ้างงานแรงงานข้ามชาติที่หลบหนีหรือพำนักอย่างผิดกฎหมาย มิเช่นนั้นจะถูกปรับเป็นเงินระหว่าง 150,000-750,000 เหรียญไต้หวัน และถ้าทำผิดอีกครั้งในระยะเวลา 5 ปี ก็จะมีความรับผิดทางอาญา โดยได้รับโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 3 ปี หรือปรับเป็นเงิน 1.2 ล้านเหรียญไต้หวัน