เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา นายจ้ง จิ่งคุน (鐘景琨) รองผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และแรงงานข้ามชาติที่มณฑลเผิงหูเพื่อสำรวจและทำความเข้าใจในการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจของครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ รวมทั้งสภาพแวดล้อมการทำงานและการอยู่อาศัยของแรงงานข้ามชาติด้วย ปัจจุบันมณฑลเผิงหูมีจำนวนประชากรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ 1,871 คน และจำนวนแรงงานข้ามชาติ 3,229 คน คิดเป็น 4.8% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ในทุกๆ เดือน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สถานีบริการมณฑลเผิงหูจะออกให้บริการโดยรถบริการเคลื่อนที่ 1-2 ครั้ง โดยเดินทางไปยังทุกพื้นที่ของเผิงหูพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลในการดำเนินการด้านเอกสารตรวจคนเข้าเมือง
นายจ้ง จิ่งคุน รองผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันยังได้ร่วมกิจกรรมสัมผัสเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายของครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ และได้พูดคุยหารือร่วมกับกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในมณฑลเผิงหูทั้ง 7 กลุ่ม ซึ่งนายจ้ง จิ่งคุนหวังว่า การเข้าร่วมงานบริการสังคมจะทำให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่นำข้อได้เปรียบ เอกลักษณ์เฉพาะ ประสบการณ์ของตนออกมาใช้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะเดินหน้าส่งเสริมการดูแลช่วยเหลือและบริการสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่พึ่งย้ายมาอยู่ไต้หวันให้สมารถปรับตัวกับการดำรงชีวิตในไต้หวัน และหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไต้หวันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หลังจากนั้น นายจ้ง จิ่งคุนได้เดินทางไปยังฟาร์มไคซิน (開心農場)หมู่บ้านซีเว่ย เมืองหม่ากง เพื่อดูการปฎิบัติงานของสมาคมการดูแลคู่สมรสชาวต่างชาติและชาวจีนแผ่นดินใหญ่มณฑลเผิงหู และสมาคมดูแลสตรีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำความเข้าใจว่ากลุ่มเอ็นจีโอสามารถใช้พลังของชุมชนท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่อย่างไร และได้ให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แชร์เรื่องราวชีวิตทั้งในไต้หวันและบ้านเกิดระหว่างกัน เพื่อให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่มาจากหลากหลายประเทศดูแลซึ่งกันและกัน และทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต
และสถานที่สุดท้าย นายจ้ง จิ่งคุนได้เดินทางไปฟาร์มเทียนเห๋อ (天和養殖場) เพื่อเยี่ยมเยือนแรงงานข้ามชาติ ซึ่งฟาร์มแห่งนี้เป็นฟาร์มแห่งแรกในไต้หวันที่ทำเองขายเอง ฟาร์มแห่งนี้นอกจากจะมีการจ้างแรงงานข้ามชาติเพื่อเลี้ยงปลาและผลิตสินค้าแล้ว ยังได้จัดที่พัก และอาหารให้แรงงานข้ามชาติได้ทำงานอย่างสบายใจด้วย
นายจ้ง จิ่งคุนกล่าวว่า ความตั้งใจที่จะดูแลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ของรัฐบาลยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่เป็นเสมือนสินทรัพย์ของไต้หวัน หากมองดูหลายๆ ประเทศ ทั่วโลก ผู้สนับสนุนการเติบโตของนวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ ส่วนใหญ่คือผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ดังนั้นการหลอมรวมกลุ่มชาติพันธ์จึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศได้ นายจ้ง จิ่งคุนกล่าวอีกว่า กลุ่มเป้าหมายของบริการให้คำปรึกษาด้านการเข้าเมืองคือ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ บุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ และแรงงานข้ามชาติ ซึ่งแรงงานข้ามชาติเป็นพลังส่วนหนึ่งของภาคการผลิตของประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงมีการเข้าไปบริการดูแลในสถานที่ๆ มีแรงงานข้ามชาติ รวมทั้งเสริมสร้างเครือข่ายความปลอดภัยของสังคม และสถานที่ด้วย นอกจากนี้ ได้ยืนยันว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่ที่พำนักในไต้หวันเกิดกำหนด ลักลอบทำงานหรือพำนักอย่างผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น