ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่มักบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างประณีตและขาดการออกกำลังกาย ทำให้โรคเมตาบอลิกกลายเป็นปัจจัยหลักที่คุกคามสุขภาพ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเบาหวานในไต้หวันมากกว่า 2.5 ล้านคน และในแต่ละปีมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 25,000 คน ตามสถิติของกระทรวงสาธารณสุขปี 2022 การใช้จ่ายด้านการรักษาโรคเบาหวานมีมูลค่าประมาณ 40.2 พันล้านเหรียญไต้หวัน ซึ่งอยู่ในอันดับที่สาม และสร้างภาระอย่างมากต่อสังคม
เปปไทด์มะระขี้นกมีประสิทธิภาพในการควบคุมน้ำตาลในเลือด (ภาพ/จัดทำโดย Heho Health)
ผู้ป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่อาศัยการรักษาด้วยยาเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด แต่หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ยา โดยเชื่อว่าหากเริ่มใช้ยาจะต้องรับประทานไปตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม วิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงการเข้าสู่การรักษาด้วยยาคือ การป้องกันตั้งแต่ระยะก่อนเป็นเบาหวานหรือในภาวะสุขภาพก้ำกึ่ง
นอกเหนือจากการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว เปปไทด์มะระขี้นกได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกว่าสามารถช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดและปรับปรุงค่าเฮโมโกลบินเอวันซี (HbA1c) ได้ เปปไทด์มะระขี้นกคือโปรตีนโมเลกุลขนาดเล็กที่สกัดจากมะระขี้นก สามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญกลูโคส ปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด และช่วยควบคุมไขมันในเลือด สำหรับผู้ที่อยู่ในภาวะก่อนเป็นเบาหวานหรือมีอาการเมตาบอลิกซินโดรม เปปไทด์มะระขี้นกอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
คนยุคใหม่มักมีงานสังสรรค์บ่อยครั้ง สามารถเสริมด้วยเปปไทด์มะระขี้นกได้ (ภาพ/จัดทำโดย Heho Health)
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำว่า การเลือกเปปไทด์มะระขี้นกควรให้ความสำคัญกับเทคนิคการสกัดแบบอุณหภูมิต่ำ ผลการพิสูจน์ทางคลินิก และการผสมส่วนประกอบเสริม เช่น สารสกัดจากอบเชย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ การจัดการสุขภาพในชีวิตประจำวัน เช่น การรับประทานอาหารที่สมดุลและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารร่วมกับยารักษาโรคอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพ
บทความนี้ได้รับอนุญาตจาก Heho Health ในการเผยแพร่
