สามีชาวไต้หวันถ่ายทำภาพยนตร์สั้น “คืนที่นอนไม่หลับในไซ่ง่อน” รำลึกคืนวานในการสมรสกับ “ภรรยาชาวเวียดนาม”

ไต้หวันในวันนี้ กำลังเดินหน้าเข้าสู่สภาพแวดล้อมแบบใหม่ สังคมที่มีความเป็นพหุวัฒนธรรม อัตราประชากรไม่ได้มีแค่ 4 กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่(คนเชื้อสายจีนเดิมในไต้หวัน, ชาวจีนที่อพยพมาจากแผ่นดินใหญ่ในช่วงหลัง, จีนแคะ และชนพื้นเมือง) โดยนับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา คู่สมรสชาวต่างชาติของไต้หวัน เป็นชาวเวียดนามเป็นอันดับแรก โดยถึงปัจจุบันได้มีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และทายาทในไต้หวันมากเกินกว่า 1 ล้านคนแล้ว ดังนั้นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จึงเป็นหัวข้อที่สำคัญมากยิ่งขึ้น โดยนอกจากหน่วยงานรัฐ องค์กร NGO ที่คอยสนับสนุนสิทธิประโยชน์ของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แล้ว ในด้านของศิลปะก็ยังมีความคาดหวังที่จะได้เห็นผลงานทางภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับ “ผู้ตั้งถิ่นฐานในไต้หวัน” มากขึ้น

ในการนี้ ศูนย์บริการร่วมสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่เมืองเถาหยวน ก็ได้จัด “เวิร์คช็อปภาพยนตร์สำหรับ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 และแรงงานต่างชาติ” โดยการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายทำและตัดต่อภาพยนตร์ให้แก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และครอบครัว โดยในเวิร์คช็อปในครั้งนี้มีสามีชาวไต้หวัน เซียวอันถิง (蕭安廷) ที่ได้จัดทำภาพยนตร์สั้นเรื่อง “คืนที่นอนไม่หลับในไซ่ง่อน” บันทึกภาพความทรงจำการแต่งงานระหว่างชาวไต้หวันและเวียดนาม และ ใหเลูกชายและลูกสาวของ เซียวอันถิง (蕭安廷) ร่วมกันแสดงเรื่องราวของความรักของทั้งสอง

เซียวอันถิง (蕭安廷) ทำภาพยนตร์สั้นเรื่อง “คืนที่นอนไม่หลับในไซ่ง่อน” บันทึกภาพความทรงจำการแต่งงานระหว่างชาวไต้หวันและเวียดนาม ภาพ / จาก เซียวอันถิง (蕭安廷)

ภายใต้ระยะเวลากว่า 4 เดือนในการจัดทำภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นการคิดหัวข้อ การออกแบบสตอรี่บอร์ด การตัดต่อต่าง ๆ เซียวอันถิงบอกกับ [เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ว่า นับจากการที่ภรรยาได้เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปในครั้งนี้ แต่เดิมที่มีการเรียนในสถานที่จริง 1 เดือน แต่ภายหลังพบเจอกับสถานการณ์โรคระบาดทำให้ต้องเปลี่ยนเป็นเรียนออนไลน์ 4 เดือน ภายใต้การเรียน และการแนะนำจากคุณครู จึงได้ตัดสินใจในการทำภาพยนตร์เกี่ยวกับความรักทั้งสองเมื่อครั้นอาศัยอยู่ที่โฮจิมิน เวียดนามกับภรรยา

เสียวอันถิงยังบอกอีกว่า ความรักข้ามประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องพิชิตปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาที่ไม่เหมือนกัน และวัฒนธรรมธรรมเนียมปฏิบัติทั้งสองประเทศที่ต่าง ๆ กัน ยังจำได้ถึงครั้งแรกที่ไป “บาหลีแห่งตะวันออก” เวียดนามที่ใช้ชื่อเดิมว่า ไซ่ง่อน เมื่อครั้นยังตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส  ยังคงมีสไตล์สถาปัตยกรรมและถนนที่ยังคงหลงเหลืออยู่ การทำภาพยนตร์สั้นเรื่อง “คืนที่นอนไม่หลับในไซ่ง่อน” ในครั้งนี้ก็เหมือนกับการ “กลับไปหวาน” กับภรรยาอีกครั้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม: รักเกาะ Baodao! ผู้อยู่อาศัยใหม่รุ่นที่สอง "ตั้งรกรากในไต้หวัน" Chen Qiming อุทิศตนเพื่อสอนภาษาพม่า

ลูกชายและลูกสาวของ เซียวอันถิง (蕭安廷) ร่วมกันแสดงเรื่องราวของความรักของทั้งสอง ภาพ / จาก เซียวอันถิง (蕭安廷)

ภาพยนตร์สั้นเรื่อง “คืนที่นอนไม่หลับในไซ่ง่อน” ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงเรื่องราวความรักของเซียวอันถิงและภรรยา ยังเป็นการแลกเปลี่ยนที่สำคัญระหว่างไต้หวันและเวียดนาม ที่นับจากการที่หญิงเวียดนามมาแต่งงานที่ไต้หวันมากขึ้น รัฐบาลไต้หวัน จึงได้จัดนโยบายต่าง ๆ ที่เป็นมิตร ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ทำให้พวกเธอสามารถเข้ากับสังคมไต้หวันได้ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงไต้หวันในยุคแรกที่มีทัศนคติที่มีการเหมารวมของผู้หญิงอาเซียน เหมือนดั่งคุณย่าของเซียวอันถิง ที่ไม่เห็นด้วยที่จะให้หลานแต่งงานกับสาวเวียดนาม จนกระทั่งภรรยา เจ้าลี่หมิง(趙麗明)เดินทางมาไต้หวัน มาพบเจอกับ “คุณย่า” และใช้เวลาอยู่ด้วยกันแสดงให้เห็นถึงความขยัน และรักครอบครัว ความอ่อนน้อมต่าง ๆ ทำให้ระยะห่างระหว่างเธอกับคุณย่าน้อยลง

อ่านข่าวเพิ่มเติม: "ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ รุ่นที่ 2" หลี่หรูเป่า ค้นหาตัวตนที่แท้จริงในตัวเอง พร้อมทำเกมกระดานแนะนำวัฒนธรรมเวียดนาม

เซียวอันถิง (蕭安廷) ใช้ภาพยนตร์สั้นเรื่อง “คืนที่นอนไม่หลับในไซ่ง่อน” มาเป็นของขวัญรำลึกการแต่งงานครบ 10 ปี ภาพ / จาก เซียวอันถิง (蕭安廷)

ภายหลังจากที่ภรรยาบอกลาคุณย่าด้วยการกอดที่อบอุ่น คุณย่ารีบถามกลับมาอีกครั้งเลยว่า “ลี่หมิงจะกลับมาหาอาม่าอีกเมื่อไหร่” ในครั้งนี้เซียวอันถิงรู้เลยว่า คุณย่ากำลังจะแอบบอกว่าให้เขาได้แต่งงานกับลี่หมิงได้แล้ว ในวันนี้ครอบครัวของพวกเขามีความสุขมาก นอกจากจะต้องขอบคุณภรรยา ที่ไม่ย่อท้อต่อความรักข้ามประเทศระหว่างเวียดนามและไต้หวัน และยังต้องขอบคุณคุณย่าต่อทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไป

เซียวอันถิงบอกกับ [เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ว่าความรักระหว่างเขาและภรรยาก็เหมือนกับการปลูกเมล็ดพันธุ์พืช ที่จะสร้างผลที่งดงาม การทำภาพยนตร์สั้นเรื่อง “คืนที่นอนไม่หลับในไซ่ง่อน” นอกจากจะเป็นผลงานที่ได้จาก “เวิร์คช็อปภาพยนตร์สำหรับ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 และแรงงานต่างชาติ”  แล้ว ยังมาเป็นของขวัญรำลึกการแต่งงานครบ 10 ปีของเขาและภรรยาอีกด้วย