นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย เตือนประชาชนดูแลร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคหนังเน่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรมีโอกาสโดนหนามตำที่เท้าได้ง่าย และกลุ่มที่อาจจะเสี่ยงที่ต้องระวังโรคนี้เป็นพิเศษได้แก่ ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ร่างกายไม่แข็งแรง เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากเท้าของผู้ป่วยโรคนี้เลือดจะไปเลี้ยงไม่ดีทำให้เท้าชา เมื่อเกิดแผลจะไม่รู้สึกเจ็บ ทำให้ผู้ป่วยไม่ให้ความสนใจในการทำแผล ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย รวมถึงผู้ป่วยโรคตับแข็งและผู้ที่รับประทานยาลูกกลอนที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์
โรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคหนังเน่า สามารถพบได้ทุกฤดู แต่จะพบมากขึ้นในช่วงฤดูฝน เนื่องจากมีโอกาสที่จะโดนหนามหรือเศษของคมตำที่เท้าจนเกิดเป็นแผลได้ง่าย โดยอาการของโรคนี้หลังจากติดเชื้อภายใน 1 วัน แล้วอาจมีอาการไม่รุนแรง แต่เมื่อติดเชื้อไปแล้ว 3-4 วัน จะเริ่มมีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น บริเวณที่ติดเชื้ออาจมีอาการบวม มีผื่นสีม่วงขึ้น หรือมีตุ่มน้ำสีเข้มที่ส่งกลิ่นเหม็น ผิวหนังอาจเกิดการเปลี่ยนสี และเนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจหลุดลอกออก เป็นต้น และเมื่อเข้าสู่วันที่ 4-5 ผู้ป่วยอาจมีอาการวิกฤติ ได้แก่ ความดันโลหิตต่ำ ช็อก หรือหมดสติได้
จึงขอเตือนให้ประชาชนป้องกันตนเองด้วยการรักษาความสะอาดของร่างกาย เมื่อเกิดบาดแผลให้ล้างทำความสะอาดบาดแผลด้วยสบู่อย่างเบามือ ไม่ฟอกแผลอย่างรุนแรง หากมีอาการปวด บวม แดง ร้อน ให้รีบไปพบแพทย์หรือส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที และห้ามรับประทานยาชุด ยาลูกกลอน หรือยาที่มีสารสเตียรอยด์ ส่วนเกษตรกรขอให้สวมรองเท้าบูททำงานเพื่อป้องกันบาดแผลที่อาจเกิดขึ้น หากพบผิดปกติรีบไปหาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์