มณฑลหยุนหลิ๋นพบผู้ป่วยเป็นไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น (Japanese encephalitis) รายแรกของไต้หวัน เป็นชายวัย 39 ปี ซึ่งบริเวณที่อยู่อาศัยและสถานที่ทำกิจกรรมของชายคนดังกล่าวเป็นทุ่งนาและฟาร์มเลี้ยงวัว จึงกลายเป็นพื้นที่ๆ มีความเสียงสูง สำนักงานสาธารณสุขมณฑลหยุนหลิ๋นได้ทำการตรวจสอบบริเวณรอบๆ บ้าน และสถานที่ทำกิจกรรมของผู้ป่วย และดำเนินมาตรการป้องกันโดยแขวนโคมดักยุงพาหะ ในขณะเดียวกันก็ได้ทำการประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่ให้เพิ่มความระมัดระวังด้วย
สำนักงานสาธารณสุขมณฑลหยุนหลิ๋นกล่าวว่า ไข้สมองอักเสบญี่ปุ่นเป็นโรคที่มีพาหะเป็นยุง ชนิด Culex tritaeniorrhynchus ซึ่งมักแพร่พันธุ์ในนาข้าว โดยไวรัสจะเข้าสู่มนุษย์ผ่านยุง และทำให้เกิดความเสียหายที่สมอง ไขสันหลัง และเยื่อหุ้มสมอง โดยไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่มีอาการชัดเจน แต่ในกรณีที่รุนแรงจะมีไข้สูง อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คอแข็ง สติสัมปชัญญะเลวลง ซึม เพ้อคลั่งแยกแยะผู้คนไม่ได้ มือสั่น ชักหมดสติ และเป็นอัมพาต
โดยช่วงเวลาที่ยุงชอบดูดเลือดมนุษย์คือ รุ่งอรุณ และพลบค่ำ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในบริเวณใกล้เคียงกับฟาร์มหมู หรือคอกสัตว์อื่นๆ หรือแหล่งเพาะพันธุ์ยุง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้สวมเสื้อผ้าสีอ่อน เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และใช้ยาป้องกันยุงที่มีส่วนผสมของ DEET หรือ Picaridin ที่รัฐบาลไต้หวันอนุญาติฉีดหรือทาบริเวณร่างกายที่เสื้อผ้าปิดไม่มิด เพื่อป้องกันยุงกัด
สำนักงานสาธารณสุขมณฑลหยุนหลิ๋นเตือนว่า การป้องกันไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่นที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกัน จึงขอให้พ่อแม่พาบุตรที่มีอายุ 15 เดือนขึ้นไป เข้ารับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์สุขภาพหรือคลินิคที่มีบริการวัคซีนดังกล่าว
สำหรับผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสียงใกล้กับสถานที่เลี้ยงสัตว์ หรือแหล่งเพาะพันธ์ยุง แนะนำให้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น โดยเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง หากคุณต้องการเดินทางไปยังพื้นที่ๆ มีการแพร่ระบาด คุณสามารถเดินทางไปยังคลินิคเพื่อการท่องเที่ยว (旅遊醫學門診) เพื่อขอคำแนะนำ และฉีดวัคซีนป้องกันก่อนออกเดินทางด้วย