นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร(กทม.) รายงานความก้าวหน้าการปลูกต้นไม้100,000 ต้น ภายใน1 ปี คือตั้งแต่ พ.ค.2562– พ.ค.2563 ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยสำนักสิ่งแวดล้อมมีพื้นที่ปลูกในสวนสาธารณะและหน่วยงานราชการต่างๆ ในส่วนสำนักงานเขตดำเนินการปลูกในพื้นที่ว่างพื้นที่สาธารณะ พื้นที่หน่วยงานภาคเอกชน โรงเรียน ศาสนสถานและพื้นที่ชายทะเลบางขุนเทียน ทั้งนี้ผลการสำรวจจำนวนต้นไม้ที่จะปลูกในพื้นที่บริเวณทางเท้าเกาะกลางถนน สวนหย่อมสวนสาธารณะในความรับผิดชอบของสำนักงานเขตแล้วรวม 53,272 ต้น แบ่งเป็นกลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ จำนวน7,682ต้นกลุ่มเขตกรุงเทพกลาง จำนวน 3,069 ต้น กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ จำนวน 4,578 ต้น กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออกจำนวน 19,022 ต้น กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ จำนวนจำนวน 4,656 ต้น และกลุ่มเขตกรุงธนใต้จำนวน 14,265 ต้น
โดยจากการสำรวจชนิดพันธุ์ไม้ที่เหมาะสม 5 อันดับแรกได้แก่ ต้นทองอุไร ต้นไทรเกาหลี ต้นพุทธรักษา ต้นพิกุลและต้นเหลืองปรีดียาธร โดยการได้มาของต้นไม้นั้นได้กำชับให้หน่วยงานดำเนินการในลำดับแรกให้พิจารณาขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงาน ภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชน โดยเป็นการรับต้นไม้ไม่ใช่เงินบริจาค การใช้งบประมาณซื้อต้นไม้จะเป็นวิธีสุดท้าย
ทั้งนี้พื้นที่การปลูกต้นไม้ยังไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดสำนักสิ่งแวดล้อมจึงได้มีแผนรณรงค์เชิญชวนให้ภาคเอกชนและประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้ในพื้นที่กรุงเทพฯเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมพร้อมปลูกจิตสำนึกในการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเชิญภาคีเครือข่าย ร่วมประชาสัมพันธ์และปลูกต้นไม้ให้สำเร็จบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ.
ข้อมูลข่าวจาก เดลินิวส์