สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. จัดงาน Technology Investment Conference 2019: Smart Ageing เพื่อเป็นเวทีให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี จากวิทยากรระดับสากล และเปิดโอกาสหาพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการสตาร์ทอัพทั้งในและต่างประเทศ กับนักลงทุน สถาบันการเงิน และพันธมิตรผู้สนใจที่เข้าร่วมงานกว่า 200 คน สร้างโอกาสเจรจาธุรกิจ ขยายตลาดด้านเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงวัย และเปิดช่องทางสนับสนุนทางการเงินและสร้างคู่ค้าธุรกิจ
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า งาน Technology Investment Conference 2019 เป็นเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการลงทุนธุรกิจเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงวัยจากวิทยากรระดับสากล รวมถึงเปิดโอกาสการหาพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุน สถาบันการเงิน และพันธมิตรผู้สนใจที่เข้าร่วมงาน โดยงานนี้นับเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไทยได้พบกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรและบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ แบ่งปันประสบการณ์แนวโน้มสังคมผู้สูงอายุ แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาสังคมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศญี่ปุ่น เศรษฐกิจเพื่อผู้สูงวัย และโอกาสทางธุรกิจเพื่อรองรับสังคมผู้วัย
สำหรับไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ในปี 2564 หรือภายใน 2 ปี โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประมาณการว่า อีก 20 ปีข้างหน้า จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน การวิเคราะห์แนวโน้มและเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย การปรับตัวทางธุรกิจเพื่อผู้สูงวัยจากนักลงทุนและผู้ประกอบการธุรกิจจึงเป้นสิ่งจำเป็น ซึ่ง สสว. จะผลักดันการดำเนินการเชิงพาณิชย์ด้านเทคโนโลยีสำหรับตลาดผู้สูงอายุเพื่อประโยชน์ของนักประดิษฐ์นักลงทุนและผู้บริโภค ซึ่งจะผลักดันภาพเศรษฐกิจเงินที่ดีขึ้น
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ในปี 2564 จะมีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด จากนั้นจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสูงสุดในปี 2574 จะมีประชากรสูงอายุถึงร้อยละ 28 ปัจจุบันรัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนบริษัทที่กำลังอยู่ในระยะเริ่มต้น เช่น ผลประโยชน์ด้านภาษีบุคคลละ 100,000 บาท และแพลตฟอร์มสำหรับการระดมทุนและการซื้อขายแลกเปลี่ยนสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และอีกแนวทางสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศ คือ การเพิ่มจำนวนและทักษะของนักลงทุน
ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวไทย