กรมควบคุมโรคของไทยเปิดไทม์ไลน์ทหารอียิปต์ พบกลุ่มเสี่ยงสูงติดโรคมีเพียง 11 คน ซึ่งผลตรวจยืนยันไม่ติดเชื้อ

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงผลการสอบสวนโรคกรณีทหารอียิปต์ที่เข้าพื้นที่จังหวัดระยองช่วงวันที่ 8 -11 ก.ค. 2563 แล้วทราบผลในวันที่ทั้งหมดเดินทางออกจากไทยไปแล้ว ว่า 1 คน ใน 31 คน ป่วยโรคโควิด-19 

จากการลงพื้นที่สอบสวนโรค หาไทม์ไลน์เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของคนในพื้นที่ พบคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงมีเพียง 11 คนเท่านั้น แบ่งเป็นพนักงานขับรถ 4 คน ที่รับ-ส่ง กลุ่มทหารไป-กลับ สนามบินอู่ตะเภากับโรงแรมดีวารี ซึ่งผลทั้งหมดออกแล้ว ไม่พบใครป่วยติดเชื้อ ส่วนห้างสรรพสินค้า 2 แห่ง ที่มีรายงานทหารอียิปต์ฝ่าฝืนออกไปเที่ยวในวันที่ 10 ก.ค. 2563 นั้น จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งสถานที่เกี่ยวข้อง เส้นทางผ่านและพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสานข้อมูลกับสถานทูตอียิปต์ สรุปทหารทั้ง 31 คน แบ่งกันเป็น 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรก 4 คน เหมาแท็กซี่ไปห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลระยอง แต่กลุ่มนี้ไม่มีทหารคนที่ยืนยันป่วยโรคโควิด-19 กลุ่มนี้รวมถึงคนที่เข้าไปในห้างฯ เซ็นทรัลดังกล่าวจึงไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ส่วนอีกกลุ่มแบ่งกลุ่มย่อย ทยอยเดินไปห้างสรรพสินค้า Passione Shopping Destination ซึ่งในคนที่ป่วยเดินไปเป็นกลุ่มย่อยกับเพื่อนอีก 5 คน เดินห้างเฉพาะชั้น 2-3 ช่วงเวลา 11.00 น.-15.00 น. ขณะอยู่ในห้างฯ พบสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอด ไม่พบการซื้อของ หรือกินอาหารในห้างแต่อย่างใด เมื่อกลับที่พักก็ไม่พบว่าออกมาจากห้องอีกและไม่พบว่ามีใครเข้าไปหาที่ห้อง ดังนั้นคนที่อยู่ในไทม์ไลน์ของทหารกลุ่มที่ไปห้าง Passioneฯ วันที่ 10 จึงเป็นกลุ่มเสี่ยง เพราะตัวทหารเองรวมทั้งประชาชนที่ไปห้างช่วงเวลาดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างดี และแทบไม่ได้สัมผัสในระยะใกล้ชิด โอกาสจะแพร่เชื้อมีเพียง 1.5% อย่างไรก็ตามแม้จะเสี่ยงต่ำ แต่หากใครที่อยู่ในไทม์ไลน์และไม่แน่ใจอยากตรวจยืนยันเชื้อก็สามารถรับบริการได้ฟรี ได้ทั้งรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ที่ลงไปประจำในพื้นที่ แต่สามารถเข้าตรวจได้ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง หรือไม่แน่ใจสามารถโทรปรึกษาสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 ได้ตลอด 24 ชม.

ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์