0613.jpg)
เมื่อเร็วๆนี้ไต้หวันมีรายงานเหตุการณ์การเกิดคลัสเตอร์ในหอพักแรงงานต่างชาติอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ความกังวลของการรวมตัวกันในหอพักแรงงานต่างชาติไม่เพียงเกิดขึ้นในไต้หวันเท่านั้น แต่สิงคโปร์ ไทย และมาเลเซียเองก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน โดยหนึ่งในประเทศเหล่านี้ สิงคโปร์เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเหตุการณ์รวมกลุ่มของแรงงานต่างชาติ จากวิกฤตในสิงคโปร์อาจเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับไต้หวันในการป้องกันการแพร่ระบาด
หลังจากเกิดการระบาดในหอพักของแรงงานต่างชาติ สิงคโปร์ได้ใช้มาตรการที่เข้มงวดในการสั่งปิดหอพักแรงงานต่างชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาออกไปข้างนอก พร้อมกำหนดให้ผู้อยู่อาศัยที่อยู่คนละห้อง หรืออยู่คนละชั้น ห้ามมีการติดต่อและรวมกลุ่มกัน อีกทั้งมีมาตรการให้แรงงานต่างชาติเข้ารับการตรวจสอบร่างกายอย่างทั่วถึง
หลังจากที่ได้มีการสั่งปิดหอพักของแรงงานต่างชาติ สิงคโปร์ห้ามแรงงานต่างชาติออกจากหอพักเป็นเวลา 28 วัน หลังครบกำหนดจึงค่อยเปิดให้แรงงานต่างชาติสามารถออกไปทำงานข้างนอกได้ ถึงแม้พวกเขาจะสามารถเดินทางออกไปทำงานข้างนอกได้แล้ว แต่พวกเขายังคงถูกควบคุมอย่างเข้มงวด โดยแรงงานต่างชาติจะใช้บริการรถรับส่งระหว่างหอพักกับที่ทำงานเท่านั้น นอกเหนือจากเวลาการเดินทางไปทำงานแล้ว แรงงานต่างชาติไม่สามารถไปที่อื่นได้อย่างอิสระ ถึงแม้พวกเขาจะได้รับการวินิจฉัยมีผลออกมาเป็นลบแล้วก็ตาม หากมีความจำเป็นที่จะออกไปข้างนอก ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตก่อนทุกครั้ง เมื่อออกไปข้างนอกสามารถอยู่ได้นานแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น หากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดจะถูกลงโทษอย่างหนัก
หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย แรงงานต่างชาติหลายคนตัดสินใจเดินทางกลับประเทศของตน เนื่องจากอยู่ที่สิงคโปร์ขาดอิสระในการใช้ชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สิงคโปร์ขาดแคลนแรงงานเป็นอย่างมาก
ประสบการณ์ของสิงคโปร์ในครั้งนี้ สามารถเป็นบทเรียนที่ดี เพื่อเตือนให้เรารู้ว่า เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาเช่นนี้ เราควรแก้ไขได้อย่างไร พร้อมเร่งดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมในหอพักของแรงงาน สนับสนุนนายจ้างให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของแรงงานต่างชาติ เตรียมรับมือกับการป้องกันการแพร่ระบาด เพื่อร่วมมือในการต่อสู้กับโรคระบาดนี้ไปด้วยกัน
