ปัจจุบันไต้หวันมีจำนวนผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มากกว่า 650,000 คน เพื่อให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ได้เข้าใจในกระบวนการพิจารณาคดีในศาลของไต้หวัน รวมถึงวิธีการต่อสู้เพื่อสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันได้เชิญผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และกลุ่มเอ็นจีโอเข้าร่วมการประชุมเครือข่ายดูแลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ณ ศาลสูงไต้หวัน นอกจากการให้คำปรึกษาแก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในการดำรงชีวิตในไต้หวันแล้ว ยังหวังว่าจะทำให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มีความรู้ความเข้าใจกฎหมายมากขึ้น
ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จากเวียดนาม อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมา เกาหลี และฮ่องกง รวมถึงกล่มเอ็นจีโอกว่า 10 กลุ่มได้เดินทางไปสำรวจเยี่ยมชมศาลสูงไต้หวัน โดยนางหวง หลิ๋งอวี้ (黃齡玉) ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสถานีบริการกรุงไทเป และนายหลิ๋น รุ้ยบิน (林瑞斌) ผู้อำนวยการบริหารศาลสูงไต้หวัน และผู้พิพากษาซู่ เหยียนจ้าว (許炎灶)ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ กลุ่มเอ็นจีโอ และผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ด้วย
นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์โครงการมอบตัวด้วยตนเองสำหรับชาวต่างชาติที่พำนักเกินกำหนด โครงการยืมแท็บเล็ตฟรีสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เป็นต้น และยังมีการนำชมเทคโนโลยีที่นำมาใช้ร่วมกับการทำงานของศาลด้วย การประชุมในครั้งนี้ยังทำให้ตัวแทนกลุ่มเอ็นจีโอ และผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ได้ทราบถึงกฎหมายพื้นฐาน การทำงานของศาล และกระบวนการการตัดสินคดีด้วย
ไช่ ลี่ฉิง (蔡麗清) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวฟิลิปปินส์ที่เคยทำหน้าที่เป็นล่ามในศาลกล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ ทำให้เธออยากช่วยเหลือพี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มากขึ้นหากต้องมีการขึ้นศาล
เถา ซื่อหรง (陶氏兒) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวเวียดนามเชื่อว่ากฎระเบียบของศาลไต้หวันนั้นแตกต่างจากประเทศเวียดนามอย่างมาก ซึ่งเธอต้องทำความเข้าใจศัพท์ทางกฎหมายบางส่วนอีกครั้ง ซึ่งการประชุมในครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อเธออย่างมาก
ลินดา ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอินโดนิเซียกล่าวว่า การพิจารณาคดีไม่ได้พิจารณาแค่เพียงเงินทองเท่านั้น แต่ยังมีการพิจารณาถึงแรงจูงใจและสภาพจิตใจด้วย ระบบการพิจารณาคดีโดยรวมนั้นมีวัตถุประสงค์และคำนึงถึงธรรมชาติของมนุษย์ด้วย
