สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สาขาเมืองหยุนหลิน ของกองกิจการเขตภาคใต้ ร่วมกับกองสังคมสงเคราะห์ ของรัฐบาลเมืองหยุนหลิน และศูนย์บริการชุมชนชาวต่างชาติ จัดกิจกรรมอบรมครอบครัวและให้ความรู้ด้านกฎหมาย โดยกิจกรรมครั้งนี้มาในธีม "ช่วงเวลาแห่งการแบ่งปันอาหาร" และ "มีเธอมีฉัน – สร้างชีวิตที่ดีกว่าร่วมกัน" นำผู้อยู่อาศัยใหม่เดินชมตลาดดั้งเดิมเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของไต้หวัน พร้อมจัดการแข่งขันทำอาหารและกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
ภายในงาน เจ้าหน้าที่ได้แนะนำวัตถุดิบในการทำอาหารเมนู “ไก่สามถ้วย” และ “หมูตุ๋น” ผ่านการ์ดรูปภาพ จากนั้นคู่รักผู้อยู่อาศัยใหม่ก็แบ่งกลุ่มไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่ตลาด และแสดงฝีมือทำอาหาร ณ สถานที่จัดงาน ซึ่งช่วยเพิ่มความเข้าใจและความกลมเกลียวระหว่างคู่สมรส อีกทั้งคู่รักชาวไต้หวันก็เข้าร่วมกิจกรรมทำอาหารด้วยเช่นกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของอาหารไต้หวัน ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยใหม่คุ้นเคยกับตลาดดั้งเดิมมากขึ้น
คู่รักชาวต่างชาติแบ่งกลุ่มไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่ตลาด (รูปภาพ / นำมาจากเว็บไซต์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)
นอกจากการทำอาหารแล้ว กิจกรรมยังมีการจัดแสดงวัฒนธรรมอินโดนีเซีย โดยผู้เข้าร่วมได้สวมชุดประจำชาติของอินโดนีเซียเดินแบบและร่วมกันทำกระเป๋า Batik นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการแข่งขันกินขนมกุ้งกรอบแบบอินโดนีเซีย ซึ่งดึงดูดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้เข้าร่วมอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะการแข่งขันกินขนมกุ้งกรอบที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ผู้เข้าร่วมต้องกินขนมกุ้งกรอบทั้งแผ่นโดยไม่ใช้มือ ใครกินหมดเร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
การแข่งขันกินขนมกุ้งกรอบ (รูปภาพ / นำมาจากเว็บไซต์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)
คุณเหวียน ชาวเวียดนามที่มาอยู่ใหม่ในไต้หวันกล่าวว่า เมื่อมาถึงไต้หวันใหม่ ๆ เธอไม่กล้าไปตลาดเพราะฟังภาษาไต้หวันไม่เข้าใจ แต่หลังจากได้เข้าร่วมกิจกรรมก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น ด้านคุณเซวี่ย ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่มาอยู่ใหม่ก็ได้กล่าวว่า ลูกของเธอได้เรียนรู้ที่จะรู้จักวัตถุดิบของไต้หวัน และสามีของเธอก็ได้เห็นความลำบากของการทำอาหาร ทำให้บรรยากาศครอบครัวดีขึ้น
ผู้จัดงานกล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยใหม่คุ้นเคยกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไต้หวันมากขึ้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างคู่สมรสอีกด้วย สุดท้ายนี้ คุณหวงจ้งเจี๋ย ผู้อำนวยการสถานีบริการเมืองหยุนหลินได้เน้นย้ำว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังคงใส่ใจและดูแลผู้อยู่อาศัยใหม่เสมอ หวังว่าพวกเขาจะสามารถตั้งรกรากและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในไต้หวัน พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมและความมีน้ำใจของชาวไต้หวันผ่านกิจกรรมเช่นนี้
