นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคม ภาคการท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ประกอบด้วย 3 โครงการคือ
โครงการกำลังใจ จะเน้นให้กำลังใจต่อเจ้าหน้าที่ อสม.และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าเดินทางท่องเที่ยวรวม 1.2 ล้านคน ซึ่งจะให้เดินทางกับบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น และรัฐก็จะสนับสนุนงบประมาณคนละไม่เกิน 2 พันบาท และจะต้องเดินทางไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน คาดจะใช้งบประมาณ 2.4 พันล้านบาท
โครงการเราไปเที่ยวกัน เป็นโครงการที่รัฐสนับสนุนค่าโรงแรมที่พักในลักษณะร่วมจ่าย จำนวน 5 ล้านคืน ในอัตราร้อยละ 40 ของค่าห้องพักแต่ไม่เกิน 3 พันบาทต่อคืน และสนับสนุนค่าอาหารและค่าใช้จ่ายสถานที่ท่องเที่ยวในโครงการ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. จะแจ้งรายชื่อกับธนาคารกรุงไทย จำนวน 600 บาทต่อห้องต่อคืน โดยต้องมีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดตามทะเบียนบ้านของประชาชนผู้จองที่พัก คาดใช้งบประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท
โครงการเที่ยวปันสุข รัฐบาลสนับสนุนการเดินทางของประชาชนไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน โดยการจำหน่ายบัตรโดยสารของผู้ประกอบการขนส่งด้านการท่องเที่ยว 3 กลุ่ม ได้แก่ สายการบินในประเทศไทย / รถขนส่งไม่ประจำทางข้ามจังหวัดและรถเช่าในอัตราร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 1 พันบาท คาดใช้งบประมาณ 2 พันล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อฟื้นฟูถ้าการท่องเที่ยวภายในประเทศประกอบด้วยผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวและผู้ประกอบการขนส่งเพื่อการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของรัฐบาลให้สามารถมีรายได้และฟื้นฟูกิจการได้ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม
ธนาคารกรุงไทย จะดำเนินการจัดทำแพลตฟอร์มหลักเพื่อเป็นช่องทางใช้บริการรองรับใน 3 โครงการนี้ โดยระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนก.ค.ถึงเดือนต.ค.นี้ รวม 4 เดือน ใช้วงเงินรวม 22,400 ล้านบาท
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์