นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้หลายพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่องและบางพื้นที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม สิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในพื้นที่น้ำท่วมขังคือ โรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) เพราะเชื้อโรคนี้จะเข้าทางบาดแผล รอยถลอกและผิวหนังเปื่อยจากการแช่น้ำนาน ทั้งนี้ สถานการณ์โรคเลปโตสไปโรสิส ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ส.ค. 2563 พบผู้ป่วย 805 ราย เสียชีวิต 12 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.9 มีอาชีพเกษตร ร้อยละ 21.5 อาชีพรับจ้าง และร้อยละ 13.8 เป็นกลุ่มนักเรียน
โดยอาการของโรคไข้ฉี่หนู จะเริ่มจากมีไข้สูงทันที ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะที่น่องและโคนขา มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียและตาแดง เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าว ขอให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว อย่าซื้อยามากินเอง เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ที่สำคัญขอให้แจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย แพทย์จะดำเนินการรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อโรคตามอาการ หากพบแพทย์เร็วรักษาเร็ว แต่หายปล่อยไว้จนสายเกินไปมีโอกาสเสียชีวิต
สำหรับวิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนู ทำได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงพลาสติกสะอาดที่หาได้ในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง กรณีมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ และอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ ควรหมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนและสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านให้สะอาด ไม่มีหนูชุกชุมและหากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรคของไทย โทร.1422
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์