สำนักข่าวไทยรายงานว่า นายสมภพ พฒนอริยางกูร ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงพลังงาน กล่าวในระหว่างการสัมมนาวิชาการ พลิกวิกฤติ สร้างโอกาสในยุคเทคโนโลยีอัจฉริยะว่า ปัจจุบันโลกกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่การขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรมพลังงาน โดยมี 5 แนวโน้มที่น่าจับตามองสำหรับด้านพลังงาน ประกอบด้วย การรวมกันระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัลกับพลังงาน ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่เร็วมากขึ้น และเชื่อมโยงทุกสรรพสิ่งกับอินเทอร์เน็ต ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานมีมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีในการจัดการในบ้านที่ทำให้บ้านฉลาดและมีระบการจัดการอัจฉริยะ ขณะที่ระดับเมืองมีการขยายตัวของเมืองทำให้การบริหารจัดการต้องฉลาดมากขึ้น อนาคตระบบพลังงานต้องมีการบริหารจัดการที่ทันสมัยด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์, การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นปัจจัยที่เป็นแนวโน้มที่ทั้งโลกคำนึงถึงความยั่งยืน การเปลี่ยนจากพลังงานที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น มีกระแสการอนุรักษ์พลังงานมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มต่อมาคือ การใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ด้วยจุดเด่นที่ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มลดลงการเข้าถึงพลังงานที่ทั่วถึง, การกระจายศูนย์การบริหารจัดการพลังงาน การผลิตพลังงานแบบกระจายตัวโดยไมโครกริดและบล็อกเชนท์ อนาคตผู้ผลิตและผู้ใช้บริการจะเป็นคนเดียวกัน, และการผ่อนปรนกฎให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง การปรับปรุงกฎหมาย เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในกิจการพลังงาน
ทั้งกระทรวงพลังงานและเอกชนต้องปรับตัวโดยสร้างการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นดิจิทัลที่รายรื่น ส่งเสริมพลังงานทดแทน ขยายโครงข่ายไฟฟ้ารองรับการเปลี่ยนแปลงเปิดพื้นที่สนามทดสอบและสตาร์ทอัพใหม่ให้ทุกคนสามารถการเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น
ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวไทย.
