[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามข้อมูลจาก “กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข” สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยใส่ใจสุขภาพช่องปากและฟัน โดยจะมีการรณรงค์ไปตลอดทั้งปี 2567 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาฟรีได้ตามสิทธิต่างๆ สำหรับสิทธิประโยชน์การรักษาทางทันตกรรมสำหรับข้าราชการ จะครอบคลุมบุคคลในครอบครัว ประกอบด้วย ได้แก่ บิดา มารดา คู่สมรส และบุตรไม่เกิน 3 คนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือบรรลุนิติภาวะแต่เป็นผู้ไร้ความสามารถหรือเสมือนผู้ไร้ความสามารถที่อยู่ในอุปการะเลี้ยงดูของข้าราชการ ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่รวมบุตรบุญธรรมหรือบุตรที่ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมแก่ผู้อื่น นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงข้าราชการที่เกษียณอายุราชการแล้ว สามารถตรวจสอบสิทธิและข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมได้จาก www.CGD.go.th หรือ Application CGD iHealthcare
“ข้าราชการและครอบครัวสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการภาครัฐ เพื่อใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียวเท่านั้น กรณีบุตรอายุต่ำกว่า 7 ปี ที่ยังไม่มีบัตรประชาชน สามารถใช้สูติบัตรและบัตรประชาชนของผู้ดูแลได้ หรือหากลืมนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารที่กรมบัญชีกลางกำหนดไปแสดง หรือไปใช้บริการที่หน่วยบริการที่ไม่มีเบิกจ่ายตรง ผู้รับบริการต้องสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลไปก่อน แล้วนำใบเสร็จรับเงินไปเบิกจากหน่วยงานต้นสังกัดโดยกำหนดระยะเวลาภายใน 1 ปี นับจากวันที่ระบุในใบเสร็จ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แซวกันสนั่นโซเชียล ! ป้ายสีแดงหน้าร้านค้า อีกหนึ่งเรื่องตลกๆ ในไต้หวัน
ตามข้อมูลจาก “กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข” สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลข้าราชการครอบคลุมการรักษาทางทันตกรรม 87 รายการ เช่น การอุดฟัน การถอนฟัน การผ่าฟันคุด การผ่าตัดอื่น ๆ เกี่ยวกับช่องปากและขากรรไกร การใส่เฝือกฟัน การรักษาโรคปริทันต์ การรักษาคลองรากฟัน การแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ การฟอกสีฟันที่ตายแล้ว การใส่เครื่องมือปิดช่องเพดานโหว่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงการใส่ฟันเทียมทั้งแบบถอดได้และติดแน่น ส่วนการรักษากรณีจัดฟันจะทำได้เฉพาะในผู้มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ หรือปากแหว่ง หรือเพดานโหว่ ซึ่งค่าบริการที่สามารถเบิกได้จะถูกกำหนดไว้ในประกาศของกรมบัญชีกลาง ข้าราชการอาจจะต้องชำระค่าส่วนต่างเพิ่มเติมในบางรายการรักษาขึ้นอยู่กับหน่วยบริการที่ข้าราชการเข้ารับบริการ
“หมั่นไปพบหมอฟันเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละครั้ง หากพบปัญหาอย่ารอช้ารีบรักษาอย่างทันท่วงที เพราะจะช่วยลดการลุกลามของโรค ลดความเจ็บปวดทรมานที่เกิดขึ้นจากปัญหาในช่องปาก เมื่อรับการรักษาเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีรอยยิ้มที่สดใสพร้อมให้บริการประชาชน”
อ่านข่าวเพิ่มเติม: สถาบันวิจัยกล้วยไต้หวัน ผลักดันการแปรรูปผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากกล้วยดิบ เพื่อเพิ่มมูลค่า