นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงแนวคิดการจับคู่ประเทศท่องเที่ยวระหว่างกัน (ทราเวล บับเบิล) ภายใต้ภูเก็ตโมเดล ว่า ขณะนี้ขอหยุดไว้ก่อน เนื่องจากประเทศที่พิจารณาในเบื้องต้น พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น และเกิดการระบาดระลอก 2-3 ทำให้การทำทราเวล บับเบิลต้องเปลี่ยนแปลงไป โดยได้มีนโยบายในการทำข้อตกลงและความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและเมืองต่างๆ ที่ปลอดเชื้อโควิด-19 อย่างแท้จริง ซึ่งจะต้องไม่มีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลามากกว่า 28 วัน เชื่อว่ายังมีอีกหลายประเทศและหลายเมืองที่ไม่มีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลานานมากแล้ว แม้ในหลายประเทศจะมีการกลับมาระบาดซ้ำอีกครั้งก็ตาม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเป็นผู้ประเมินว่าเมืองใดหรือประเทศใดไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ติดต่อกันเป็นระยะเวลาตามที่กำหนด
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบถึงแนวทางการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดได้รับการประสานมาจากบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่ยืนยันว่า ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้สูงจำนวนกว่า 200 ราย ได้แจ้งความประสงค์เข้ามาในประเทศไทย โดยจะขอเข้ากักตัวที่โรงแรมที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล (ASQ) ในจังหวัดภูเก็ต เป็นเวลา 14 วัน ตามแนวทางของภูเก็ตโมเดล ที่ได้เสนอให้คณะรัฐมนตรี ครม.สัญจร ที่จังหวัดระยองรับทราบไปแล้ว ทั้งนี้ในการดำเนินงานเบื้องต้นกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังพิจารณาแนวทางทั้งหมด ทั้งความพร้อมของโรงแรม บุคลากร ประชาชนในพื้นที่ มาตรฐานด้านสาธารณสุข รวมถึงแนวทางการดูแลความปลอดภัยและเมื่อได้ข้อสรุปจะเสนอนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
โดยกำหนดไว้ว่า อาจจะเปิดให้คนกลุ่มนี้เข้ามาได้ก่อนวันที่ 1 ต.ค. 2563 ขณะเดียวกันกลุ่มที่จะเข้ามาต้องเป็นกลุ่มจากเมืองที่ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 โดยต้องทำการตรวจตั้งแต่ต้นทางก่อน 48 ชั่วโมง เข้ามาแล้วตรวจอีกครั้ง และกักตัว 14 วัน หลังจากนั้นพอพ้นจาก 14 วัน หากคนกลุ่มนี้ต้องการเดินทางไปที่อื่นมากขึ้นจะต้องตรวจและกักตัวอีก 7 วัน หากตรวจซ้ำอีกครั้งแล้วไม่พบรวม 21 วัน ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ เหมือนกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตกหล่นอยู่ในประเทศไทยได้ แต่การทำทั้งหมดต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเน้นเรื่องระบบสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งปกติแล้วคนกลุ่มนี้จะเดินทางมาอยู่ในไทยเป็นเดือนๆ เพื่อหนีหนาว หากทำได้ตามโมเดลนี้จะช่วยเหลือภาคท่องเที่ยวให้มีรายได้กลับมาได้
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์
