จากสถิติระบุว่า ปัจจุบันไต้หวันมีจำนวนประชากรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่กว่า 550,000 คน และมีจำนวนนักเรียนที่เป็นบุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่กว่า 310,000 คน เพื่อดูแลเอาใจใส่บุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่อาศัยอยู่ในมณฑลจินเหมิน เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา รถบริการเคลื่อนที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สถานีบริการมณฑลจินเหมิน เดินทางไปเยี่ยมเยือนเชี่ย เจียหลิ๋ง (謝嘉玲) และต่ง หมิ๋งจิ้น (董明晉) บุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่เคยได้รับรางวัลประธานาธิบดีด้านการศึกษา เพื่อให้การดูแลครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น
สำหรับสถานที่แรก รถบริการเคลื่อนที่ได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนคุณอู๋ ลี่จุน (吳麗君) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวเวียดนาม ซึ่งคุณอู๋แต่งงานมาอยู่จินเหมินได้ 10 กว่าปีแล้ว เชี่ย เจียหลิ๋ง (謝嘉玲) ลูกสาวของเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทากายาสุในช่วงที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นโรคหายากชนิดหนึ่ง ทำให้ดวงตาได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการอักเสบของหลอดเลือดแดงและเส้นปราสาทตา จนการมองเห็นมีความบกพร่อง แต่ภายใต้การดูแลเป็นอย่างดีจากแม่และพ่อของเธอ เชี่ย เจียหลิ๋งศึกษาเล่าเรียนอย่างขยันขันแข็งจนได้รับรางวัลประธานาธิบดีด้านการศึกษาปี 2016 คุณอู๋ ลี่จุนกล่าวว่า แม้ว่าเส้นทางการศึกษาเล่าเรียนของลูกไม่ราบเรียบ แต่เธอเป็นคนเผชิญกับปัญหาด้วยการคิดบวกและมองโลกในแง่ดี ทำให้รู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้เป็นอย่างมาก และในปีนี้ เชี่ย เจียหลิ๋ง ได้เข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยด้วย หวังว่าเธอจะมีความสุขกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
สำหรับสถานที่ๆ สอง รถบริการเคลื่อนที่ได้เดินทางไปบ้านของคุณหลิ๋นผิ๋ง (林萍) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวจีน คุณหลิ๋นผิ๋ง แต่งงานมาอยู่จินเหมินตั้งแต่ปี 2007 เธอและสามีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่โชคร้ายที่สามีของเธอเสียชีวิตลงในปี 2011 เพื่อให้ลูกชายของตนเองมีการศึกษาที่ดี คุณหลิ๋นผิ๋งได้ทำงานเสริมพิเศษ เลี้ยงดูต่ง หมิ๋งจิ้น (董明晉) ที่ในตอนนั้นมีอายุเพียง 3 ขวบ ซึ่งต่ง หมิ๋งจิ้นก็ไม่ทำให้เธอผิดหวัง ได้รับรางวัลประธานาธิบดีด้านการศึกษาปี 2016 และเค้าร่วมโครงการส่งเสริมศักยภาพผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรในต่างประเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในปี 2018 ซึ่งได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ประเทศบ้านเกิดของแม่ คุณหลิ๋นผิ๋งกล่าวอย่างมีความสุขว่า นอกจากต่ง หมิ๋งจิ้นจะมีผลการเรียนที่ดี ยังมีความสนใจในด้านดนตรีเป็นอย่างมาก ปัจจุบันได้เป็นสมาชิกวงซิมโฟนิคแบนด์ของโรงเรียนอีกด้วย
นายเลี่ยว เว่ยหล๋าน (廖蔚蘭) ผู้อำนวยการสถานีบริการมณฑลจินเหมินกล่าวว่า เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการย้ายถิ่นฐานเนื่องจากการแต่งงาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ดำเนินนโยบายให้คำปรึกษาด้านการย้ายถิ่นฐาน นอกจากจะมีการพัฒนาการให้บริการสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในด้านต่างๆ ยังมีโครงการพัฒนาศักยภาพบุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรในต่างประเทศ ซึ่งหวังว่าบุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จะใช้ความได้เปรียบของตนเองให้เป็นพลังสำคัญในการผลัดดันไต้หวันไปสู่ระดับนานาชาติ
