เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.นายวีระโรจน์ พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวเปิดโครงการการขับเคลื่อนและสร้างความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่นตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและสร้างความรู้ด้านจริยธรรมและวิธีดำเนินการทางวินัยประจำปีงบประมาณ2562 ว่า ขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.)กำลังผลักดันอาหารไทยในเมนู ต้มยำกุ้งเข้าสู่การเสนอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของมวลมนุษยชาติดังนั้นตนเห็นว่าประเทศไทยควรมีการผลักดันสร้างแผนส่งเสริมและพัฒนาอาหารไทยอย่างจริงจังโดยตั้งคณะกรรมการศึกษาเรื่องอาหารไทยขึ้น1 ชุดเพื่อมาร่วมขับเคลื่อน ขณะที่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศตนเห็นว่าร้านอาหารทั่วไปได้รับผลกระทบเพราะมีร้านสะดวกซื้อที่จำหน่ายอาหารสำเร็จรูปเกิดขึ้นมาก ทำให้สูตรการทำอาหารผิดเพี้ยนและไม่สามารถสร้างองค์ความรู้อาหารไทยดั้งเดิมได้ดังนั้น สวธ. ควรมีการจัดทำหลักสูตรสำหรับประชาชน พร้อมทำการสำรวจเรื่องร้านข้าวแกงคนไทยนิยมอะไร10 อย่างมีการสำรวจสูตรอาหารไทย การคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับเปิดร้านทั้งแบบห้องแถวไปจนถึงร้านอาหารชั้นนำ รวมถึงควรมีการขึ้นทะเบียนร้านอาหารอร่อยของไทยโดยประสานกระทรวงพาณิชย์ให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาสอนวิธีจัดทำสาขาร้านอาหารไทย
นายวีระ กล่าวอีกว่า การทำงานวัฒนธรรม ต้องแก้ความยากจนของคนในท้องถิ่น สวธ. ต้องจัดส่งเงินไปให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ไปทำถนนสายวัฒนธรรมเพื่อให้ลงสู่ท้องถิ่นให้ส่งถึงประชาชนได้นำอาหารผลิตภัณฑ์ชุมชนมาจำหน่ายให้เงินหมุนเวียนในชุมชนสร้างงานวัดให้เกิดกระจายทุกจังหวัด ให้ศิลปินพื้นบ้านมาร่วมแสดงให้มีรายได้ ยิ่งเฉพาะช่วงไม่มีงานยิ่งต้องสร้างงานวัฒนธรรมการแสดงให้มากขึ้นและส่งต่อไปยังผู้ประกอบการด้านวัฒนธรรมทุกแขนงโดยเฉพาะมวยไทยหุ่นละครเล็กซึ่งเป็นการแสดงสร้างชื่อให้ประเทศเพื่อไม่ให้ล่มสลายไป ขณะเดียวกันขอให้สวจ. สภาวัฒนธรรมสำรวจจำนวนผู้ประกอบการด้านวัฒนธรรมเพื่อให้การสนับสนุนให้รอบด้าน รวมทั้งให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยส่งเสริมดีไซน์เนอร์ไทยไปจัดแสดงผลงานในต่างประเทศ และฝากให้ขับเคลื่อน5 F ได้แก่ อาหาร เทศกาล ภาพยนตร์ มวย และแฟชั่น สู่สากลตามนโยบายรัฐบาล นอกจากนี้ทุกหน่วยงานควรร่วมกันผลักดันให้เกิดศูนย์วัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่สาธารณรัฐประชาชนจีน อเมริกายุโรป และออสเตรเลีย
ข้อมูลข่าวจาก เดลินิวส์