กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันได้บรรจุภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในหลักสูตรการเรียนภาษาปีการศึกษา 2019 และจะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2019 นี้ โดยภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่คือ ภาษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 7 ภาษาได้แก่ เวียดนาม อินโดนิเซีย ไทย เมียนมา กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และมาเล นอกจากนี้จะมีการสอดแทรกวัฒนธรรมของแต่ละประเทศด้วย
โดยนักเรียนชั้นประถมศึกษาจะต้องเลือกเรียน 1 ภาษาท้องถิ่น (ภาษาไต้หวัน ภาษาฮากก้า และภาษาชาวพื้นเมือง) หรือ 1 ใน 7ภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ตามความต้องการของตนเอง โดยเรียน 1 คาบต่อสัปดาห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จะเป็นวิชาเลือก และมีหลักสูตรที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของนักเรียน ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จะเป็นตัวเลือกเรียนภาษาที่ 2 ตามความต้องการของนักเรียนและลักษณะของโรงเรียน
ภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในหลักสูตรการเรียนภาษาปีการศึกษา 2019 จะเริ่มเปิดสอนให้กับนักเรียนชั้นป. 1 (ไม่จำกัดแค่บุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่) ให้โอกาสเด็กๆ ได้เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับเด็กๆ ด้วย
ในขณะเดียวกัน หลังจากที่มีการเรียนการสอนภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในโรงเรียนแล้ว อาจารย์ก็จะมีโอกาสเข้าใจในวัฒนธรรมที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เกิดการเคารพ ยอมรับ และชื่นชมในแต่ละวัฒนธรรม เกิดบรรยากาศที่เป็นมิตรมากขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างมุมมองความเป็นนานาชาติให้กับเด็กๆ และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในอนาคตด้วย
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นของปีการศึกษา 2019 กระทรวงศึกษาธิการได้ส่งเสริมมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ เช่น
การฝึกอบรมครูผู้สอนทั่วประเทศกว่า 2,328 คน จัดทำหนังสือคู่มือเรียนภาษาทั้ง 7 ภาษา รวม 126 เล่ม รวมทั้งมีมาตรการสำหรับนักเรียนในชนบทพื้นที่ห่างไกลในการเรียนภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่งชาติจงยัง และInstitute for Information Industry ในการพัฒนาระบบเรียนรู้ทางไกล รวมทั้งสนับสนุนการสาธิตการเรียนการสอนภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในโรงเรียนในแต่ละมณฑลและเมืองทั่วไต้หวัน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการใช้หลักสูตรการเรียนภาษาปีการศึกษา 2019 อย่างเป็นทางการ
