[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงภารกิจการนำส่งอวัยวะ ว่าปัจจุบันมีประชาชนที่ป่วยด้วยโรคที่ไม่สามารถที่จะใช้การเยียวยาด้วยยาหรือวิธีอื่น ต้องเปลี่ยนปลูกถ่ายอวัยวะใหม่ทดแทนจึงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทั้งนี้ จะได้อวัยวะมานั้นต้องได้มาจากผู้ประสงค์บริจาคอวัยวะที่แสดงความจำนงค์ด้วยตนเองตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่กับทางสภากาชาดไทย เมื่อเสียชีวิตด้วยภาวะสมองตายแต่อวัยวะยังสมบูรณ์ รพ.ต่างจะแจ้งเข้าระบบสภากาชาดไทย ให้ส่งข้อมูลไปยัง รพ.ต่างๆ เพื่อแจ้งว่าอวัยวะที่ได้รับบริจาค พร้อมข้อมูลผลเลือด ค่าภูมิต่างๆ โดยละเอียด เพื่อให้ รพ.ทุกแห่งประเมินเลือกคนไข้คนใดที่เหมาะสมที่สุดที่จะได้รับอวัยวะดังกล่าวจากนั้นจึงแจ้งประสานการผ่าตัดและนำส่งอวัยวะที่ผ่าจากร่างผู้บริจาคส่งไปยัง รพ.ปลายทาง
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : MOE จัดโครงการฝึกงานที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่
ซึ่งระหว่างการนำส่งสิ่งสำคัญที่สุดคือเวลา เพราะอวัยวะแต่ละอวัยวะมีความทนต่อการเสียเลือดไม่เท่ากัน เมื่อมีภาวะเสียเลือดแล้วตัวเนื้อเยื่อ และเซลล์ต่างๆ จะตายไปด้วยทำให้การนำส่งอวัยวะต้องแข่งกับเวลา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งจากทีมแพทย์ หน่วยงานสนับสนุนการเดินทางที่รวดเร็วโดยเฉพาะเครื่องบินนำส่งและรถนำ จากทั้งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อให้สามารถนำส่งอวัยวะที่ได้รับบริจาคถึงมือศัลยแพทย์ที่รอผ่าตัดที่รอผ่าตัดให้คนไข้ที่จำเป็นต้องได้รับอวัยวะนั้นให้เร็วที่สุด
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : ทีมปราบกลุ่มมิจฉาชีพชาติ พร้อมปกป้องพี่น้องประชาชนจากกลุ่มมิจฉาชีพได้อย่างรอบด้าน
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญในภารกิจการนำส่งอวัยวะ คือ ผู้ประสงค์บริจาคอวัยวะ หากไม่มีผู้บริจาคก็คงไม่มีอวัยวะนำส่งช่วยเหลือผู้ป่วย จึงขอเชิญชวนผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้วและมีสุขภาพดี ร่วมแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะไว้ก่อน ถือเป็นการทำบุญที่ดีและยิ่งใหญ่ที่สุดในวันที่ไม่อาจใช้อวัยวะได้ยังสามารถส่งต่อเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนที่ยังใช้ได้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นพลเมืองที่ดีต่อไป