เนื่องจากชาวไต้หวันไม่ค่อยนิยมรับประทานผักสมุนไพร จึงทำให้มีการเข้าใจไม่ตรงกันอยู่บ่อยครั้งระหว่างคู่สมรสชาวไต้หวันและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสถานีบริการที่ 1 นครไถจงได้เปิดคอร์สการศึกษาสำหรับคู่รักผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ โดยคลาสนี้ได้นำคู่สมรสชาวไต้หวันเรียนรู้อาหารที่มักใส่ผักสมุนไพร และกล้าที่จะทานอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีรสชาติเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ
โดยทั่วไปแล้ววัฒนธรรมอาหารของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจาก น้ำปลา มะนาว ตะไคร้แล้ว ยังนิยมใส่สมุนไพรหลายชนิดลงไป กล่าวกันว่าในเวียดนาม บนโต๊ะอาหารจะมีถาดใส่ผัก และสมุนไพรหลายชนิด และไม่ว่าจะเป็นสลัดผักกาดหอม ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ หรือไข่ข้าว สมุนไพรเป็นสิ่งที่อาหารเวียดนามขาดไม่ได้
งานนี้ สถานีบริการที่ 1 นครไถจงได้เชิญคุณไช่ ซิวโชว์ (蔡秀綢) ประธานสมาคมพัฒนาคุณภาพการศึกษาครอบครัวแห่งสาธารณรัฐจีน มาทำการบรรยาย โดยยามว่าง คุณไช่จะใช้เวลาอยู่ที่สวนที่เช่าไว้ กับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรเพื่อปลูกพืชสมุนไพรหลากหลายชนิด
คุณไช่กล่าวในระหว่างการบรรยายว่า มีสตรีชาวเวียดนามคนหนึ่งแต่งงานกับชาวไต้หวัน เธอต้องพยายามอย่างมากในการทำอาหารให้ถูกปากสามี เธอเข้าครัวทำอาหารให้สามีทานทุกวัน แต่หลังจากสามีทาน ก็รู้สึกไม่ถูกใจขึ้นเรื่อยๆ และคิดว่าทุกวันก็ให้เงินค่ากับข้าวเป็นจำนวนมาก ทำไมภรรยาไม่ซื้อเนื้อปลา แต่ชอบเอาสมุนไพรมาให้ตนเองทาน จนกระทั้งได้พบกับคุณไช่ ที่ให้การบรรยายเกี่ยวกับอาหารนานาชาติ จึงรู้ว่าจริงๆ แล้ว ผักสมุนไพรเป็นสิ่งที่ชาวเวียดนามนิยมรับประทาน และภรรยาก็ตั้งใจทำอาหารให้สามี ทำให้ความเข้าใจผิดนั้นหมดไป
นายโจว์ โหย่วเริ่น (周佑仁) ผู้อำนวยการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสถานีบริการที่ 1 นครไถจงกล่าวกับผู้ที่เข้าเรียนว่า การแต่งงานข้ามชาตินอกจากจะพบกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม อาหาร วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษา และสังคม เป็นต้น ก็มักจะมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันด้วย คอร์สนี้จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังเชิญชวนให้คุณสามีไปจ่ายตลาดกับภรรยา และเลือกซื้อผักสมุนไพรที่คุณภรรยาชื่นชอบด้วย