นร.ต้องระวัง! หลังฉีดวัคซีน BNT “ไม่ควรออกกำลังกาย” อีกทั้งเฝ้าระวัง 5 อาการสำคัญ

เพื่อตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของนักเรียน ทางศูนย์ควบคุมโรคระบาดกลางและกระทรวงศึกษาธิการได้จัดให้เยาวชนอายุ 12 ถึง 17 ปีได้รับวัคซีน BNT ของไฟเซอร์ คาดว่าการฉีดวัคซีนในสถานศึกษา จะเริ่มในวันที่ 22 กันยายน ศูนย์บัญชาการเตือนว่า หลังฉีดวัคซีนภายใน 2 สัปดาห์ อย่าออกกำลังกายหนัก อีกทั้งให้เฝ้าสังเกตอาการภายใน 4 สัปดาห์ว่ามีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น หายใจถี่ เป็นลมขณะทำกิจกรรม และอาการอื่นๆ ด้วยหรือไม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม: คลิกด่วน! คูปอง 5 เท่าใช้ได้ในวันที่ 8 ต.ค. "วิธีลงทะเบียน ขอบเขตการใช้งาน และมาตรการเพิ่มเติม" เรานำมารวมไว้ในที่เดียวให้ท่านแล้ว

ศูนย์บัญชาการเตือนให้ใส่ใจ 5 อาการหลังฉีดวัคซีน BNT  ภาพจาก／ศูนย์ควบคุมโรคระบาดกลาง

เฉินสือจง ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการกล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้มีการประชุมเกี่ยวกับคำแนะนำการรักษาทางคลินิกสำหรับเด็กและวัยรุ่นที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หลังฉีดวัคซีนภายใน 2 สัปดาห์อย่าออกกำลังกายหนัก ดังนั้น นักเรียนนักศึกษาควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องใช้กำลังมากเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หากมีการจัดชั้นเรียนพลศึกษา ควรจัดเตรียมอย่างเหมาะสมตามเวลาที่นักเรียนได้รับวัคซีน

อ่านข่าวเพิ่มเติม: กระทรวงศึกษาธิการประกาศ "แนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดในโรงเรียน" สั่งห้ามผู้ที่ป่วยไปทำงานหรือไปเรียนที่โรงเรียนเด็ดขาด

วันที่ 22 กันยายน เริ่มฉีดวัคซีน BNT ในสถาบันการศึกษา  ภาพ／ดึงมาจาก《中央社》

นอกจากนี้ หลังจากฉีดวัคซีน BNT ภายใน 28 วัน ให้สังเกตด้วยว่ามีอาการทั้ง 5 นี้หรือไม่ ซึ่งได้แก่ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ อาการเจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก ใจสั่น หายใจถี่ หอบขณะทำกิจกรรม เป็นต้น หากหายใจมีเสียงหอบขณะเดินหรือไม่สามารถขึ้นบันไดได้ อีกทั้งเป็นลมขณะทำกิจกรรม คุณต้องไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ควรแจ้งประวัติการฉีดวัคซีนของท่านด้วย