เมื่อเวลา 9.30 น. ของวันนี้ (8 พ.ค.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันได้จัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติและการบริจาคอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคของมูลนิธิฉื๋อจี้ นายซู่ กั๋วหย่ง (徐國勇) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไต้หวันรู้สึกประทับใจเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ปฎิบัติหน้าที่เป็นด่านแรกของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งเป็นงานที่เหน็ดเหนื่อย และต้องขอบคุณคุณแม่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด้วย และเพื่อให้พวกเค้ามีวันแม่ที่น่าจดจำในปีนี้ จึงได้ถือโอกาสในวันก่อนวันแม่ เชิญครอบครัวเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาเป็นแขกพิเศษเพื่อร่วมกิจกรรม ซึ่งบรรยกาศของกิจกรรมมีทั้งเสียงหัวเราะและน้ำตา มีความน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง กิจกรรมนี้ยังได้เชิญบุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ 6 คน พร้อมด้วยมาสคอตดสุนัขและแมวของมูลนิธิฉื๋อจี้ ร่วมกันแสดงเต้นสาธิตการล้างมือและร่วมพิธีบริจาคอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค นอกจากนี้ยังได้มอบสบู่และดอกคาร์เนชั่นแก่ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมด้วย
นายซู่ กั๋วหย่ง: ขอบคุณสำหรับความตั้งใจและความช่วยเหลือของมูลนิธิฉื๋อจี้
นายซู่ กั๋วหย่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่าวันแม่เป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เมื่อได้เห็นเจ้าหน้าตรวจคนเข้าเมืองและครอบครัวกอดกัน แสดงความกตัญญูและอวยพรซึ่งกันและกันก็ทำให้นายซู่ รู้สึกประทับใจมาก นายซู่กล่าวว่า บางครั้งการขอบคุณอย่างจริงใจและกอดที่อบอุ่นสามารถทำให้แม่มีความสุขได้ งานของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองนั้นค่อนข้างหนักและต้องทำงานเป็นกะ และในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ในระดับแนวหน้าในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคซึ่งมีโอกาสที่จะติดเชื้อสูง มีแรงกดดันมาก ดังนั้นในเวลานี้ การสนับสนุนของครอบครัวจึงเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเอาชนะความกลัว ต้องขอบคุณครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทุกคนด้วย
นายซู่ กั๋วหย่งกล่าวว่า หลังจากที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หน่วยงานหลายหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยได้ทำงานอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นทีมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ป้องกันไม่ให้โรคระบาดจากต่างประเทศเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ ไปจนถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานทะเบียนราษฎร์ และสำนักงานกิจการพลเรือน เป็นต้น โดยเฉพาะข้าราชการพลเรือนในสำนักงานกิจการพลเรือนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ต้องโทรไปหาหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อยืนยันลูกบ้านที่ต้องดำเนินการกักกันโรคที่บ้านที่ล่ะคนๆ และต้องทำงานจนถึงเที่ยงคืนตีสองตีสามอยู่เป็นประจำ เมื่อจะกลับบ้านก็ต้องให้คนในครอบครัวมารับเพื่อความปลอดภัย และในวันรุ่งขึ้นก็ต้องกลับมาทำงานแต่เช้าอีก วันนี้ไต้หวันสามารถบรรลุผลที่ยอดเยี่ยมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค นอกจากความพยายามของศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันและหน่วยงานของรัฐ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือประชาชนที่ร่วมมือร่วมใจกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
นอกจากนี้ยังขอขอบคุณมูลนิธิฉื๋อจี้ที่ให้การช่วยเหลือนับตั้งแต่การเริ่มต้นของการแพร่ระบาด คอยจัดหาอุปกรณ์ที่ขาดแคลนให้กับรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งช่วยเหลือได้เป็นอย่างมาก ทำให้ไต้หวันห่างไกลจากโรคระบาด
คุณแม่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง:ตัวอยู่ในแนวหน้าของการป้องกันการแพร่ระบาด ขอบคุณครอบครัวที่อดทน
จวง เจียเยี่ยน (莊佳燕) เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าวว่า เธอรู้สึกประทับใจมากกับการจัดกิจกรรมในวันนี้ เธอกล่าวว่า โรคระบาดในครั้งนี้รุนแรงและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว การที่ยืนอยู่แถวหน้าของการป้องกันการแพร่ระบาดถ้าบอกว่าไม่กลัวก็คงจะโกหก โดยเฉพาะครอบครัวของเธอมีลูก 2 คน กลัวว่าตนเองจะเป็นผู้แพร่เชื้อไปสู่คนในครอบครัว ดังนั้นทุกวันที่กลับไปบ้านสิ่งแรกต้องทำความสะอาดตัวเองก่อนแล้วเช็ดทุกซอกทุกมุมของบ้านด้วยน้ำยาฟอกขาว ลูกๆ มักจะบอกกับเธอว่า แม่โรคระบาดนั้นรุนแรง ทำงานต้องระมัดระวังด้วย วันนี้ก็ได้มาให้กำลังใจแม่ รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ขอบคุณครอบครัวสำหรับความอดทนในช่วงเวลานี้
เธอได้ย้อนความทรงจำตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดจนถึงวันนี้ เธอจำได้ดีว่าได้พบกับชาวไต้หวันที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลานาน หลังจากส่งสิ่งของให้เพื่อนในวันที่เข้ามาไต้หวันและกำลังวางแผนออกนอกประเทศโดยใช้ระบบตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติ แต่ทางระบบแจ้งว่าจะต้องทำการกักกันโรคให้ครบ 14 วันก่อนที่จะออกนอกประเทศได้ แต่เค้าได้เดินไปยังเคานเตอร์ตรวจคนเข้าเมืองแทน คุณจวงจึงรีบแจ้งเพื่อนร่วมงานของเธอที่ประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์และให้เข้าดำเนินการกักกันโรคจนเสร็จสิ้น
นายซู่ กั๋วหย่งกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณมูลนิธิฉื๋อจี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก้ได้บริจาคอุปกรณ์ป้องกันโรคแก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอยู่บ่อยครั้ง โดยในครั้งนี้ได้บริจาคถุงมือทางการแพทย์ แว่นตาและหมวกครอบหน้าป้องกันเชื้อโรค สเปรย์แอลกอฮอล์ และชุดป้องกันโรค ให้เจ้าหน้าที่ระดับแนวหน้าได้ใช้ เป็นการปกป้องสุขภาพของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
มูลนิธิฉื๋อจี้:ขอให้ไต้หวันหลุดพ้นจากดรคระบาดโดยเร็ว
นายหลิ๋ว หมิ๋งต๋า (劉銘達) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิฉื๋อจี้กล่าวว่า ทางมูลนิธิยังคงเดินหน้าจัดหาอุปกรณ์สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในระดับแนวหน้าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในไต้หวัน โดยหวังว่าจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมช่วยเหลือในงานด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ทางมูลนิธิไม่เพียงแต่ให้การสนับสนุนด้านวัตถุสิ่งของ แต่ยังหวังว่าการจัดกิจกรรมบริจาคในครั้งนี้จะสามารถส่งพลังบวกไปสู่เจ้าหน้าที่ในระดับแนวหน้า ให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันส่งผ่านความรัก และขอให้ไต้หวันก้าวเดินไปข้างหน้าผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโรคในครั้งนี้ไปได้
นายซู่ กั๋วหย่งกล่าวว่า ปัจจุบันในไต้หวันมีแรงงานข้ามชาติที่หลบหนี 40,000 กว่าคน โดยมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นคุณแม่ พรุ้งนี้ก็จะเป็นวันแม่แล้ว ซึ่งในช่วงเวลานี้ก็คงต้องคิดถึงลูกๆ เป็นอย่างมาก สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้เปิดโครงการมอบตัวด้วยตนเองสำหรับชาวต่างชาติที่พำนักในไต้หวันเกินกำหนดหรือแรงงานข้ามชาติที่หลบหนี โดยมีระยะเวลาของโครงการระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-30 มิ.ย.2020 ผู้ที่เข้ามามอบตัวด้วยตนเองจะไม่ถูกคุมขัง ไม่ถูกจำกัดระยะเวลาห้ามเข้าไต้หวัน และเสียค่าปรับเพียง 2 พันเหรียญไต้หวันเท่านั้น และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะช่วยเหลือส่งกลับประเทศให้เร็วที่สุด สำหรับข้อมูลรายละเอียดของโครงการสามารถโทรไปสอบถามได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โทร 0800-024-881 หรือสายด่วนให้คำปรึกษาแรงงาน 1955