ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในอังกฤษพุ่งพรวดเป็น 26, 097 คนเมื่อวานนี้ ทำให้อังกฤษกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในยุโรป รองจากอิตาลี และเป็นอันดับสามของโลก ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลอังกฤษเริ่มนับรวมผู้เสียชีวิตครอบคลุมทั้งหมดเป็นครั้งแรกรวมถึงผู้เสียชีวิตในบ้านพักคนชราด้วย
ท่ามกลางสถานการณ์การระบาด ยังมีข่าวดีเมื่อนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษกลายเป็นคุณพ่ออีกครั้งในวัย 55 ปี หลังแคร์รี ไซมอนด์ส คู่หมั้นให้กำเนิดบุตรชายก่อนกำหนดเมื่อวานนี้
ขณะที่ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกล่าสุดพบทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 224,402 คนจากจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 3,141,2500 คน ใน193 ประเทศและดินแดน ในจำนวนนี้รักษาหายอย่างน้อย 889,200 คน โดย 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 6,327 คน และติดเชื้อรายใหม่ 72,900 คน สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อมากที่สุดในโลก ในรอบ 24 ชั่วโมงจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกครั้งอยู่ที่ 2,502 คน หลังตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันลดลงในช่วง 2 วันก่อนนั้น ทำให้ขณะนี้สหรัฐมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 60,853 คน และติดเชื้อกว่า 1,030,487 คน
ในเอเชีย จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 คนเมื่อวานนี้ ทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม ส่วนเกาหลีใต้กังวลว่าเชื้อโควิด-19จะกลับมาระบาดอีกในช่วงวันหยุดยาวที่อาจต่อเนื่องไปจนถึงวันอังคาร โดยเตือนประชาชนอย่าเพิ่งลดระดับการป้องกันในช่วงดังกล่าว ซึ่งถูกมองว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในการต่อสู้กับโรค ด้านนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น กำลังชั่งน้ำหนักตัวเลือกต่างๆอย่างรอบคอบ หลังมีกระแสเรียกร้องจากผู้ว่าราชการจังหวัดและพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ที่ต้องการให้เลื่อนเปิดเทอมปีการศึกษาใหม่ออกไปจากเดือนเมษายน เป็นเดือนกันยายน.
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์