ในกระแสความตื่นตัวเรื่องภัยพิบัติที่สร้างความตระหนักรู้ให้กับคนไทย เหตุการณ์สึนามิครั้งใหญ่เมื่อปี 2547 ที่ซัดถล่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตคนไทยไปตลอดกาล ทั้งในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ เหตุการณ์นั้นไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังสร้างแรงผลักดันให้ประเทศไทยพัฒนาแผนการรับมือภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างก้าวหน้าทั้งในด้านระบบเตือนภัยและการจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิในอนาคตยังคงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งที่เคยได้รับผลกระทบรุนแรง มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูชีวิตผู้ประสบภัย ผ่านการสนับสนุนเด็กและชุมชนในระยะยาว เช่น โครงการอุปการะเด็กที่ช่วยส่งเสริมการศึกษา และการพัฒนาชุมชนให้พร้อมรับมือกับภัยพิบัติโครงการนี้ให้ความรู้ด้านการป้องกันภัยพิบัติแก่เด็กและชุมชนทั่วประเทศไทย
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา การทำงานเชิงรุกของมูลนิธิฯ เช่น การให้ความรู้เรื่องการลดความเสี่ยงภัยพิบัติ (DRR) และการจัดอบรมในโรงเรียนและชุมชนทั่วประเทศ ช่วยให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมในทุกด้าน เช่น การอพยพและการปฏิบัติตามแผนเมื่อเกิดภัย รวมถึงการฟื้นฟูชุมชนหลังภัยพิบัติภายใน 72 ชั่วโมง
แม้สึนามิจะเกิดจากเหตุการณ์ธรณีวิทยา แต่ภาวะโลกร้อนที่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและการละลายของธารน้ำแข็ง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อพื้นที่ชายฝั่ง สิ่งเหล่านี้ทำให้การสร้างความพร้อมและการรักษาสมดุลของธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการต่อไป.