สำนักข่าวไทยรายงานว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวบนเวทีการประชุมรัฐมนตรีระดับโลกในการบูรณาการระบบพลังงานหมุนเวียน (Global Ministerial Conference on System Integration of Renewables) ที่ประเทศเยอรมนี โดยระบุว่าการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่กำลังจะมาถึงมี 2 องค์ประกอบสำคัญ คือ 1.พลังงานหมุนเวียนกลายเป็นกระแสหลักของโลก โดยมีต้นทุนการผลิตถูกลง และ 2.เทคโนโลยีดิจิทัล บิ๊กดาต้า และอินเทอร์เน็ต (Internet of Things : IoT) ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้เกิดการตอบสนองต่อการใช้งานอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้เป็นแบบดิจิทัล มีส่วนช่วยให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพขึ้น และช่วยให้การใช้พลังงานหมุนเวียนมีความต่อเนื่องยิ่งขึ้น
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านปฏิบัติที่เป็นเลิศในระดับภูมิภาคด้านพลังงาน โดยทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่าไทยมีการใช้พลังงานหมุนเวียนสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ไม่รวมโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่) และไทยกำลังก้าวสู่ประเทศที่มีกำลังผลิตติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวลใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ อีกทั้งไทยเป็นประเทศกลุ่มแรก ๆ ที่ก่อตั้งกองทุนเฉพาะด้านสำหรับการลงทุนในพลังงานหมุนและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของภาครัฐและภาคเอกชน ธนาคารพาณิชย์ของไทยมีประสบการณ์กว้างขวางในการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านพลังงานหมุนเวียน โครงการด้านพลังงานต่าง ๆ ของไทยมีการพัฒนาจริงจังทั่วทุกภูมิภาค
รมว.พลังงาน ระบุว่าหลังการประชุมมีหลายชาติสมาชิกที่เข้ามาพูดคุยและต้องการร่วมมือกับประเทศไทยในการพัฒนางานด้านพลังงานทดแทน เช่น เรื่องระบบการเก็บกักพลังงานหรือ Energy storage ซึ่งจะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ IEA ยังกล่าวถึงประเทศไทยบนเวทีการประชุมโดยแสดงความชื่นชมที่ไทยสามารถพัฒนางานด้านพลังงานทดแทนได้อย่างโดดเด่นเป็นผู้นำในอาเซียน อย่างไรก็ตาม ไทยจะยังคงเดินหน้าพัฒนางานด้านพลังงานทดแทน อย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวไทย