พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม โดยให้หน่วยงานเสนอโครงการผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบนั้น ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา จำนวน 2 โครงการ ภายใต้แผนงานส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน ได้แก่
โครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง วงเงินไม่เกิน 1,080.59 ล้านบาท โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดำเนินการจ้างงานเพื่อปฏิบัติงานเป็นอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น ระยะเวลา 12 เดือน รวม 15,548 คน อัตราเดือนละ 5,000 บาท โดยดำเนินการตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 – ก.ย. 2564 ซึ่งจะทำให้เกิดการส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการกระจายรายได้ให้ประชาชน และเกิดนักบริบาลที่เป็นอาชีพใหม่ในท้องถิ่น ซึ่งในระยะยาวจะเป็นอาชีพที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน
โครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ (Tambon Smart Team) วงเงินไม่เกิน 2,701.87 ล้านบาท โดยกรมการปกครอง ดำเนินการจ้างงานเพื่อปฏิบัติงานเก็บข้อมูลรายเดือน จำนวน 12 เดือน จำนวน 7,255 ตำบลๆ ละ 2 คน รวม 14,510 คน อัตราเดือนละ 15,000 บาท ดำเนินการตั้งแต่เดือนส.ค. 2563 – ก.ย. 2564 ซึ่งจะทำให้เกิดการส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน เกิดการจ้างงานในทุกตำบล อำเภอทั่วประเทศ และจะเกิดการจัดทำฐานข้อมูลแบบบูรณาการ (Database) ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการวางแผนพัฒนาพื้นที่ในทุกระดับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า กระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยการจ้างงานเพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคครัวเรือนและชุมชนไปพร้อมกับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เพื่อที่จะให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้มีอาชีพ มีรายได้และได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานดำเนินโครงการด้วยความโปร่งใส ให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดินอย่างคุ้มค่า
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์