ความท้าทาย AI ทางการแพทย์: ผู้ช่วยแพทย์ที่ไม่ขัดสิทธิมนุษยชน
AI ในอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาด AI ในการแพทย์จะสูงถึง 353 ล้านดอลลาร์ใน 5-10 ปีข้างหน้า สอดคล้องกับการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในโรงพยาบาล ตั้งแต่การวินิจฉัยโรคไปจนถึงการวางแผนการรักษา
แม้ AI จะไม่สามารถแทนที่แพทย์ได้ทั้งหมด แต่การนำมาใช้ในกระบวนการตรวจคัดกรองและวิเคราะห์ข้อมูลช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดเวลาการทำงาน ตัวอย่างเช่น AI ที่ถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพื่อวิเคราะห์ฟิล์มเอกซเรย์และตรวจโรคซับซ้อน โดยการทำงานร่วมกับแพทย์ช่วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม การใช้งาน AI ต้องดำเนินตามหลักจริยธรรมและเคารพสิทธิมนุษยชน เช่น การปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลและการขอความยินยอมจากผู้ป่วยก่อนใช้งาน AI การใช้นวัตกรรมเช่น AI Medical Chatbot ช่วยปรับปรุงการดูแลผู้ป่วยและลดความหนาแน่นของงานบุคลากรทางการแพทย์ปัญญาประดิษฐ์ในด้านการดูแลสุขภาพจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย
ในอนาคต การขาดแคลนบุคลากรในระบบสาธารณสุขอาจเป็นปัญหาใหญ่ AI จึงถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมศักยภาพแพทย์ และยังช่วยยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างยั่งยืน