การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงดำเนินไปโดยไม่มีทีท่าที่จะสิ้นสุดลง ระบบการสั่งซื้อหน้ากากอนามัยแบบยืนยันตน3.0 ได้ดำเนินไปเป็นรอบที่ 7 แล้วในวันที่ 4 พ.ค.ซึ่งประชาชนสามารถทำการสั่งซื้อหน้ากากอนามัยได้ที่ร้านสะดวกซื้อแล้ว อย่างไรก็ตาม ในขณะหลายคนสั่งซื้อหน้ากากอนามัยก็ได้รับข้อความที่มีการแนบลิงค์ฟิชชิ่งจากกลุ่มมิจฉาชีพด้วยเหตุนี้สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติไต้หวันเตือนประชาชนว่าสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติหรือระบบสั่งซื้อหน้ากากอนามัย emask จะไม่ส่งข้อความแนบกับ "ลิงค์"! หากประชาชนเห็นลิงค์ที่แนบมากับข้อความหรืออีเมล์กรุณาอย่ากดเข้าไปหรือดาวน์โหลดโดยพลการ และหากมีเบี้ยประกันสุขภาพที่ค้างชำระ สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติจะเรียกเก็บเบี้ยประกันเป็นเอกสารอย่างเป็นทางการและจะไม่แจ้งทางโทรศัพท์! ขอให้ประชาชนระมัดระวังไม่หลงกลและตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
กลุ่มมิจฉาชีพได้ทำการส่งข้อความที่มีเนื้อหาแนบลิงค์ไปยังเว็บไซต์ฟิชชิ่ง โดยเริ่มจาก “พัสดุได้มาถึงแล้วขอให้รีบตรวจสอบ”“วันที่จัดส่งโดยประมาณ..เดือน..โปรดยืนยันที่อยู่” และตอนนี้มีเนื้อหาล่าสุดคือ "พัสดุที่คุณส่งที่ไปรษณียทั้งหมดถูกตีกลับ (สงสัยว่ามีการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย) โปรดยืนยันที่อยู่ผู้ส่งโดยเร็วที่สุด" และมีการแนบลิงค์ไปยังเว็บไซต์ฟิชชิ่ง เมื่อคุณคลิกแล้วมีแนวโน้มว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะหลอกลวงหมายเลขบัญชีและรหัสผ่าน การชำระเงินผ่านมือถือ และอื่นๆ จนทำให้เกิดการสูญเสียเงิน หรือพวกเขาอาจปลอมตัวเป็นหน่วยงานของรัฐเพื่อลดความระมัดระวังของประชาชนแล้วโทรไปที่โทรศัพท์เพื่อแจ้งเบี้ยประกันสุขภาพที่ยังไม่ได้ชำระและกระตุ้นให้พวกเขาจ่ายเบี้ยประกัน
ข้อความฟิชชิ่งเป็นวิธีการทางอาญาทั่วไป หากคุณเผลอกดลิงค์ฟิชชิ่งและทำให้โทรศัพท์มีปัญหา ให้รีบทำการระงับบัตรเครดิดและแจ้งบริษัทให้บริการเครือข่ายมือถือให้ปิดระบบการชำระเงินผ่านมือถือเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อทรัพย์สิน
สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติเตือนว่า เมื่อคุณได้รับโทรศัพท์ที่สงสัยว่ามีการฉ้อโกงโปรดวางสายทันที และให้รีบแจ้งสายด่วนต่อต้านการทุจริต 165 หรือโทรไปที่สายด่วนบริการให้คำปรึกษาด้านประกันสุขภาพ: 0800-030-598 หรือ 4128-678 (ไม่ต้องกดรหัสพื้นที่) หรือ 02-4128-678