img
:::

สนับสนุน “อาหารไทย” เป็นตัวขับเคลื่อนนโยบายพลังอ่อน

น.ส.วรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร เปิดเผยถึงแนวทางการ/ Pexels
น.ส.วรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร เปิดเผยถึงแนวทางการ/ Pexels

น.ส.วรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร เปิดเผยถึงแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหารว่า อาหารเป็นจุดแข็งในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของไทย จากเสน่ห์ตั้งแต่หน้าตา ไปจนถึงรสชาติ วัตถุดิบที่ใช้ปรุง ที่แสดงให้เห็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์พื้นถิ่น ที่มีความหลากหลาย และเป็นที่นิยมของทั้งคนไทยและคนต่างชาติ จนถึงขั้นเดินทางมาประเทศไทยเพื่อชิม และเรียนทำอาหารไทย

สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ร่วมเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนนโยบายSoft Powerด้านอาหาร ซึ่งมีการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรม ตามโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย ให้กับผู้ที่สนใจเป็นเชฟอาหารไทยสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่การเรียนรู้ ผ่านหลักสูตรอาหารที่คณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหารร่วมกันจัดทำขึ้น และผ่านการอบรมระยะเวลารวม 240 ชั่วโมง แบ่งเป็นทฤษฎีออนไลน์ 72 ชั่วโมง ปฏิบัติในพื้นที่อีก 168 ชั่วโมง

โดยโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย ตั้งเป้าปีแรกสร้างเชฟ 6,500 คน และทั้งโครงการSoft Power ด้านอาหารจะสร้างอาชีพให้คนไทยที่สนใจเป็นเชฟอาหารไทยได้มากกว่า 100,000 คน ในระยะ 5 ปี รองรับความต้องการของร้านอาหารไทยทั้งใน และต่างประเทศ โดยร้านอาหารไทยในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันประมาณ 20,000 ร้าน คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 100,000 ร้าน ภายใน 4 ปี เชฟจากโครงการของเราก็จะรองรับการขยายตัวของร้านอาหารไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นผลิตผลจาก 75,086 หมู่บ้านในประเทศไทย ที่จะมีเชฟอาหารไทยมืออาชีพ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เฉิดฉาย พร้อมถ่ายทอดอัตลักษณ์ท้องถิ่น ชุมชนผ่านเรื่องราวในอาหารไทยน.ส.วรชนาธิป ยังกล่าวว่าการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างต่อเนื่องจะส่งผลไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่จะได้รับประโยชน์ทั้งห่วงโซ่/GreenThai Restaurant

น.ส.วรชนาธิป ยังกล่าวว่าการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างต่อเนื่องจะส่งผลไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่จะได้รับประโยชน์ทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ เช่น ด้านการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการผลิตและส่งออก สินค้าการเกษตร ธุรกิจเครื่องปรุงรส ผลิตอาหาร ลงไปจนถึงร้านอาหารท้องถิ่น โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสถาบันอาหาร คาดการณ์ว่ามูลค่าการส่งออกอาหารไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจาก 1.16 ล้านล้านบาท ในปี 2566 เป็น 1.65 ล้านล้านบาท ในปี 2567

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading