img
:::

นักเรียนเริ่มวัคซีน BNT วันที่ 23 กันยายนนี้ กระทรวงศึกษาธิการระบุ ต้องให้ผู้ปกครอง "เซ็นยินยอม" ก่อน นักเรียนถึงจะสามารถฉีดวัคซีนได้

นักเรียนเริ่มวัคซีน BNT วันที่ 23 กันยายนนี้  ภาพ/ดึงมาจาก《中國時報》
นักเรียนเริ่มวัคซีน BNT วันที่ 23 กันยายนนี้ ภาพ/ดึงมาจาก《中國時報》
เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่】ผู้แปล/นงค์รักษ์ เหล่ากอคำ (李慧毓)

ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน(CECC) ประกาศว่า จะเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคให้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา(ตอนต้นและตอนปลาย) และนักเรียนอาชีวศึกษา(ปวช.และ ปวส.) ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนนี้เป็นต้นไป โดยหลักการจะใช้วิธีจัดส่งเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาลตระเวนไปฉีดให้ที่โรงเรียน ได้แก่ นักเรียนมัธยมปลายอายุ 12 ถึง 17 ปี นักเรียนต่างชาติ โรงเรียนทัณฑสถานเด็กและเยาวชน นักเรียนที่เรียนด้วยตนเอง ฯลฯ การฉีดวัคซีนจะต้องเป็นไปโดยสมัครใจ และการฉีดวัคซีนจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ทางโรงเรียนได้เตือนผู้ปกครอง หากนักเรียนเกิดอาการเวียนหัวไม่สบาย ให้รีบช่วยเหลือเบื้องต้นตามสถานการณ์ไปก่อน

อ่านข่าวเพิ่มเติม : Youtuber ชาวสวีเดนแนะนำข่าวไต้หวัน ชื่นชอบการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน

กระทรวงศึกษาธิการให้ผู้ปกครอง "เซ็นยินยอม" ก่อน นักเรียนถึงจะสามารถฉีดวัคซีนได้  ภาพ/ดึงมาจาก《聯合報》

กระทรวงศึกษาธิการให้ผู้ปกครอง "เซ็นยินยอม" ก่อน นักเรียนถึงจะสามารถฉีดวัคซีนได้  ภาพ/ดึงมาจาก《聯合報》

ทั้งนี้เด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา(ตอนต้นและตอนปลาย) และนักเรียนอาชีวศึกษา(ปวช.และ ปวส.) ซึ่งอายุระหว่าง12-18 ปี ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองและตัวเด็กนักเรียนเองก่อน และหลังฉีดวัคซีนแล้วหากมีอาการไม่สบาย สามารถลาหยุดเนื่องจากรับการฉีดวัคซีนได้ และผู้ปกครองก็สามารถลาหยุดงานเพื่อดูแลบุตรที่ไม่สบายเพราะฉีดวัคซีนได้ด้วย ผู้ที่มีอายุ 12 ถึง 17 ปีที่มีสัญชาติไต้หวัน แต่ไม่มีสถานะนักเรียน สามารถลงทะเบียนที่แพลตฟอร์มมีความประสงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของศูนย์บัญชาการประกาศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม : เทศกาลไหว้พระจันทร์ใกล้เข้ามาแล้ว! รัฐบาลเมืองเถาหยวน ประกาศ " โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร " ปกป้องขนมไหว้พระจันทร์และเฉลิมฉลองเทศกาลด้วยกัน

นักเรียนเริ่มวัคซีน BNT วันที่ 23 กันยายนนี้  ภาพ/ดึงมาจาก《中國時報》

นักเรียนเริ่มวัคซีน BNT วันที่ 23 กันยายนนี้  ภาพ/ดึงมาจาก《中國時報》

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังได้ขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนในพื้นที่ ร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุข ในการจัดสภาพแวดล้อมที่อำนวยต่อการฉีดวัคซีนแก่นักเรียน อีกทั้งจัดพื้นที่รอก่อนฉีดวัคซีน พื้นที่รอดูอาการหลังฉีด พื้นที่ฉีดวัคซีนที่ปลอดภัยอย่างน้อย 1 แห่ง พื้นที่รักษาหากนักเรียนเกิดอาการเป็นลมเนื่องจากกลัวเข็ม หรือเกิดอาการแพ้วัคซีน นอกจากนี้ยังสามารถเปิดเพลงและวิดีโอในสถานที่ฉีดวัคซีน ช่วยให้นักเรียนผ่อนคลายเพื่อหลีกเลี่ยงอาการกลัวเข็ม

มาเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading