img
:::

สำนักข่าวเดลินิวส์รายงานว่า นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากการส่งออกที่ลดลงซึ่งส่งผลไปสู่อุปสงค์ในประเทศ ทำให้ปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงเหลือ 2.8% จากเดิมคาด 3.3% และคาดมูลค่าส่งออกปีนี้ติดลบ 1% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการค้าโลกชะลอตัว ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐแล้ว

โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยพยุงเศรษฐกิจได้บ้างในเรื่องการบริโภค แต่ถ้าไม่มีเศรษฐกิจไทยจะลดลงไปมากกว่านี้ ซึ่งการประเมินได้ให้ปัจจัยพ.ร.บ.งบประมาณ 63 ที่ล่าช้าไปแล้ว คาดว่าจะเริ่มใช้งบได้ต้นปี 63 ส่วนใหญ่ผลกระทบของเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ปัจจัยภายนอกเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก

นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 62 มีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ 1-4% จากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาดตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ผลกระทบจากการขยายตัวของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น รวมถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีที่ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้ช้ากว่าในอดีต ทำให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 63 ที่ 1% ตามแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า 3.3%

อย่างไรก็ตามจะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยเฉพาะผลกระทบของสภาวะการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป โดยพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายอย่างเหมาะสม ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่กระทบกับความสามารถในการแข่งขันและแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากทุกภาคส่วน

ข้อมูลข่าวจาก เดลินิวส์

แบงก์ชาติปรับลดจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 2.8% (ภาพจาก pixabay)

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading