คณะรัฐมนตรี ได้กำหนดให้วันวิสาขบูชาของทุกปี เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ โดยปีนี้วันต้นไม้ประจำปีของชาติ ตรงกับวันพุธที่ 6 พ.ค. 2563 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้จัดเตรียมกล้าไม้จำนวนกว่า 152 ล้านกล้า มอบให้ประชาชนทั่วประเทศ พร้อมกับมอบกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้พร้อมกันทั่วประเทศ ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ในปัจจุบัน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้มอบต้นตะเคียนทอง ให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2563 เพื่อเป็นปฐมฤกษ์ในการปลูกต้นไม้ และเป็นการแสดงสัญลักษณ์ในการนำต้นไม้ไปปลูกและขยายผลฟื้นฟูป่าทั่วประเทศ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้จัดเตรียมกล้าไม้จำนวน 127 ล้านกล้า เตรียมไว้ให้ประชาชนที่มาขอรับกล้าไม้นำกลับไปปลูกตามที่อยู่อาศัย ศาสนสถาน โรงเรียน ที่สาธารณตามความเหมาะสม ใช้ปลูกตามโครงการสำคัญต่าง ๆ และปลูกฟื้นฟูสภาพป่าภาคเหนือที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้น
สำหรับประชาชนที่สนใจต้องการขอรับกล้าไม้พันธุ์ดีของกรมป่าไม้ สามารถติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่หน่วยเพาะชำกล้าไม้ที่อยู่ใกล้ที่อยู่อาศัยของท่านเองทั่วประเทศ หรือสามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดสถานที่รับกล้าไม้ได้ที่ โทร. 0 2561 4292 ต่อ 5053 ส่วนเพาะชำกล้าไม้ และสายด่วน 1310 กด 3 ทั้งนี้กรมป่าไม้ ยังขอเชิญชวนร่วมลงทะเบียนปลูกต้นไม้ในโครงการและกิจกรรมปลูกต้นไม้และปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก "รวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน" สืบสานสู่ 100 ล้านต้น ผ่านเว็บไซต์กรมป่าไม้ www.forest.go.th โดยในขณะนี้มีประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้และลงทะเบียนผ่านเว็บไซด์กรมป่าไม้ ไปแล้วจำนวนกว่า 13.7 ล้านต้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาไฟป่า ทำลายพื้นที่ป่าไม้เป็นวงกว้าง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ขอเชิญชวนประชาชนทุกจังหวัด ได้ใช้โอกาสในวันต้นไม้ประจำปีของชาติร่วมกันปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ป่าทั่วประเทศ ทั้งนี้ได้เตรียมวางแผนสำหรับการปลูกฟื้นฟูสภาพป่าจากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมฟื้นฟูป่าที่เสียหาย อีกทั้งสนับสนุนหมู่บ้านเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า 802 หมู่บ้านทั่วประเทศ เป็นแนวหน้าฟื้นฟูป่าที่ถูกไฟไหม้ พร้อมเตรียมกล้าไม้ในการใช้ปลูกฟื้นฟูจำนวน 66 ล้านกล้า
ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวไทย
