มณฑลหนานโถว์เปิดโครงการให้บริการอบรมผู้อนุบาลต่างชาติถึงบ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลให้ดียิ่งขึ้น

จากข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้อนุบาลข้ามชาติมีความแตกต่างทางศาสนา วัฒนธรรม ภาษา และการฝึกอบรมทักษะการดูแลเบื้องต้นในประเทศต้นทาง จึงอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการดูแลผู้สูงอายุได้ รัฐบาลมณฑลหนานโถว์ได้เปิดตัวโครงการฝึกอบรมเพิ่มเติมถึงบ้าน (居服宅配補充訓練計畫) ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยล่ามแปลภาษาเดินทางไปอบรมผู้อนุบาลข้ามชาติถึงบ้านเพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลของผู้อนุบาลข้ามชาติ นายหลิ๋น จื้อจง (林志忠) ผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานและสังคมได้เป็นตัวแทนนายหลิ๋น หมิ๋งฉิ๋น (林明溱) ผู้ว่าการณ์มณฑล เชิญชวนครอบครัวที่มีความต้องการอย่าพลาดโอกาสใช้บริการดังกล่าว

นายหลิ๋น จื้อจงระบุว่า นายหลิ๋น หมิ๋งฉิ๋นได้ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้อนุบาลข้ามชาติในมณฑลที่มีอยู่ประมาณ 6 พันคน จึงได้เปิดตัวโครงการฝึกอบรมเพิ่มเติมถึงบ้าน แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด ก็จะให้ความสำคัญกับผู้อนุบาลที่เดินทางมาทำงานใหม่หรือผู้อนุบาลที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงหรือต้องนั่งรถเข็นก่อน ผู้ที่ต้องการใช้บริการสามารถเข้าไปยื่นสมัครใช้บริการได้ที่สำนักงานแรงงานและสังคมมณฑลหนานโถว์ (กองแรงงานและเยาวชน) โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถโทรไปสอบถามได้ที่เบอร์ 049-2238670 หรือ 2244082

โครงการนี้มีระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือนพ.ค.ถึงต้นเดือนธ.ค.นี้ โดยมอบหมายให้สมาคมสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวันและมูลนิธิเพื่อการกุศลและสวัสดิการสังคมเป็นผู้ดำเนินงาน โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่พร้อมล่ามแปลภาษาเดินทางไปอบรมผู้อนุบาลต่างชาติถึงที่บ้านประมาณครอบครัวล่ะ 4 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ได้รับดูแลแต่ละคน และสถานการณ์และความต้องการของครอบครัวก็มีความแตกต่างกัน

นายหลิ๋น จื้อจงกล่าวว่า สำหรับผู้อนุบาลข้ามชาติที่พึงเดินทางมาทำงาน ไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาทักษะการดูแลและคุณภาพการดูแลเท่านั้น จะมีการแจ้งถึงขนบธรรมเนียมประเพณีและมารยาทในครอบครัวของสองประเทศแก่นายจ้างและแรงงานด้วยเพื่อลดช่องว่างการสื่อสารระหว่างแรงงานและนายจ้างด้วย

คุณจัง จู๋จือ (張菊枝) รองประธานสมาคมดูแลภรรยาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มณฑลหนานโถว์พร้อมล่ามแปลภาษาเดินทางไปทำการอบรมผู้อนุบาลท่บ้านที่เมืองเฉาตุนซึ่งเป็นบ้านของอาม่าวัย 95 ปี โดยมีการสาธิตและให้คำแนะนำการช่วยให้อาม่าลุกจากเตียงและนั่งรถเข็นอย่างถูกวิธี ปลอดภัย และประหยัดแรงแก่ผู้อนุบาลชาวอินโดนิเซีย นอกจากนี้ยังได้สอนถึงวิธีการตบหลังอย่างถูกต้องและนวดอาม่าเพื่อลดอาการปวดตึงที่มือและเท้าที่ขาดการออกกำลังกายด้วย