เศรษฐกิจสหรัฐกำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 โดยรายงานจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวร้อยละ 4.8 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปี สืบเนื่องมาจากการตอบสนองการแพร่ระบาดที่รัฐบาลออกคำสั่งให้ประชาชนเก็บตัวอยู่บ้านและธุรกิจต่างๆถูกปิดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ด้านธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเตือนว่า โรคโควิด-19 สร้างความยากลำบากให้กับสาธารณสุขและเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง รวมทั้งเศรษฐกิจสหรัฐที่จะถูกกัดเซาะทำลาย ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงระยะสั้นเท่านั้นแต่ยังเป็นความเสี่ยงมหาศาลในระยะกลางด้วย ขณะเดียวกันคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละศูนย์ หลังเสร็จสิ้นการประชุมเป็นเวลาสองวัน
อย่างไรก็ตามยังมีความหวังว่าการระบาดจะสิ้นสุดลงได้ หลังการทดลองพบว่าผู้ป่วยตอบสนองต่อการรักษาด้วยการใช้ยาต้านไวรัส โดยนายแพทย์ แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐกล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า ผลการศึกษาใหม่ครั้งใหญ่ พิสูจน์ให้เห็นว่า ยาต้านไวรัสเรมเดซิเวียร์ มีประสิทธิผลในการช่วยชีวิตผู้ป่วย โควิด-19 ที่อาการหนัก.
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์