โรคต้อหินมักถูกเรียกว่า "ฆาตกรเงียบ" ของเส้นประสาทตา เนื่องจากในระยะแรกมักไม่มีอาการที่ชัดเจน กว่าจะตรวจพบก็มักจะเข้าสู่ระยะกลางถึงระยะรุนแรง ซึ่งในบางกรณีอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นถาวรได้ จากข้อมูลของระบบประกันสุขภาพในไต้หวัน มีผู้ป่วยโรคต้อหินประมาณ 450,000 คน และมีอัตราเพิ่มขึ้น 6%-7% ทุกปี เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะแรก การวัดความดันลูกตา (IOP) เป็นตัวบ่งชี้สำคัญในการตรวจจับโรคต้อหิน ล่าสุดมีการเปิดตัวเครื่องวัดความดันลูกตาแบบพกพา ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยสามารถตรวจวัดความดันลูกตาได้ด้วยตัวเอง ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการดูแลรักษาโรคต้อหิน
กลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคต้อหิน (ภาพ/โดย Heho Health)
โรคต้อหิน: สาเหตุการตาบอดอันดับสอง – กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวัง
พญ.เฉิน ยี่จวิ้น แพทย์จักษุวิทยาโรงพยาบาล Cathay General Hospital อธิบายว่าโรคต้อหินแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ต้อหินปฐมภูมิและต้อหินทุติยภูมิ ต้อหินปฐมภูมิมักเกิดจากพันธุกรรมและความดันลูกตาสูงที่ส่งผลต่อเส้นประสาทตา ส่วนต้อหินทุติยภูมิอาจเกิดจากการบาดเจ็บหรือโรคอื่น ๆ ในดวงตา นพ.ลี่ ต้าหวิน หัวหน้าแผนกต้อหินโรงพยาบาลสามทัพ กล่าวว่าต้อหินเป็นสาเหตุการตาบอดอันดับสองรองจากต้อกระจก วิธีการรักษาในปัจจุบันรวมถึงการใช้ยาหยอดตา การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ และการผ่าตัดแบบดั้งเดิม การใช้เครื่องวัดความดันลูกตา เช่นเดียวกับเครื่องวัดความดันโลหิต ช่วยให้ติดตามความผันผวนของความดันลูกตาได้สะดวกยิ่งขึ้น และมีส่วนช่วยในการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะแรก
ประสบการณ์จากผู้ป่วย: การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมช่วยควบคุมโรคต้อหิน
คุณจาง ผู้ป่วยโรคต้อหินที่เคยมีอาการปวดหัวและแน่นหน้าอกเป็นเวลานาน หลังการตรวจวินิจฉัยเธอได้รับการยืนยันว่าเป็นโรคต้อหิน เธอสามารถรักษาความดันลูกตาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ผ่านการติดตามผลและการใช้ยาเป็นประจำ พร้อมทั้งปรับพฤติกรรมการดื่มน้ำจากการดื่มทีละมาก ๆ เป็นการดื่มทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง เธอเน้นว่าถึงแม้โรคต้อหินจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การจัดการอย่างเหมาะสมสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก
เครื่องวัดความดันลูกตาแบบพกพา: ตัวช่วยสำคัญในการจัดการโรค
นพ.ลี่ ต้าหวิน ชี้ว่าความผันผวนของความดันลูกตาที่มากเกินไปเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้โรคต้อหินแย่ลง ผู้ป่วยควรตรวจวัดความดันลูกตาเป็นประจำทุกวันและบันทึกผลไว้ เพื่อให้แพทย์ปรับแผนการรักษาได้ในระหว่างการตรวจติดตามผล สำหรับผู้ป่วยที่มีความยุ่งยากหรือเดินทางบ่อย เครื่องวัดความดันลูกตาแบบพกพาช่วยให้การจัดการโรคมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ต้อหิน: สาเหตุอันดับสองของการตาบอด (ภาพ/โดย Heho Health)
โรคต้อหินมีแนวโน้มเกิดในวัยที่น้อยลง – การตรวจคัดกรองเป็นสิ่งจำเป็น
ข้อมูลจากระบบประกันสุขภาพแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยโรคต้อหินเกือบ 30% มีอายุต่ำกว่า 49 ปี และบางรายได้รับการวินิจฉัยในช่วงอายุ 20 ปี แพทย์เตือนว่าโรคต้อหินไม่ได้เป็นโรคเฉพาะของผู้สูงอายุอีกต่อไป ทุกช่วงอายุควรได้รับการตรวจคัดกรองและติดตามความดันลูกตาเป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องดวงตาและป้องกันการสูญเสียการมองเห็นที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
