6 ใน 10 อันดับแรกของการเสียชีวิตในไต้หวัน (เนื้องอกมะเร็ง, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคเบาหวาน, โรคปอดบวม, โรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่างเรื้อรัง) เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสูบบุหรี่ และอีก 4 สาเหตุ เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ทางอ้อม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตยาสูบได้ใช้เทคนิคการตลาดที่หลากหลายเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีรูปทรงแปลกใหม่หรือเพิ่มรสชาติที่แตกต่างเพื่อดึงดูดคนหนุ่มสาวให้ใช้มัน ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายใหม่ต่อสุขภาพสำหรับคนหนุ่มสาว องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดหัวข้อของวันงดสูบบุหรี่โลกในวันที่ 31 พ.ค.ปีนี้ "ปกป้องคนหนุ่มสาวจากพ่อค้ายาสูบและป้องกันไม่ให้ใช้ยาสูบและผลิตภัณฑ์นิโคติน"
จากการสำรวจในปี 2019 พบว่า อัตราการใช้บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ของเยาวชนไต้หวันอยู่ที่ 4.2% เพิ่มขึ้น 1.5% จากปีที่แล้ว (2.7%) หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ซึ่งคาดว่ามีคนหนุ่มสาวกว่า 57,000 คนใช้บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพไต้หวันได้ร่วมกับสำนักงานการศึกษาภาคบังคับ K-12 สมาคมผู้ปกครองแห่งชาติ (NAPPA) และตัวแทนแพทย์ เรียกร้องให้ทุกแวดวงสนับสนุนการต่อสู้กับอันตรายบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์และปกป้องสุขภาพของคนหนุ่มสาวด้วยกัน เพื่อความสามารถในการแข่งขันในอนาคตของประเทศ!
บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่มีนิโคตินซึ่งเป็นสิ่งเสพติดได้ง่ายและมีความเสี่ยงต่อการระเบิดและการก่อมะเร็ง มีการศึกษาในต่างประเทศพบว่า หลังจากการสูบมันจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความชุกของโรคหอบหืดและการขาดเรียน การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำจะช่วยลดปริมาณกลูโคสในสมองและทำลายปัจจัยการแข็งตัวของเลือด มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองและมีเลือดออกมากกว่าผู้สูบบุหรี่ธรรมดา จากรายงานของสถาบันวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการแพทย์แห่งชาติสหรับอเมริกา (National Academies of Sciences, Engineering, and Medicine) ในปี 2018 พบว่า เยาวชน คนหนุ่มสาวที่ใช้บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์จะมีความเสี่ยงในการใช้บุหรี่เพิ่มขึ้น กลายเป็นนักสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องและทำให้อาการไอและหอบหืดแย่ลงหาก วัยรุ่นที่เคยสูบบุหรี่บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ภายใน 2 ปี มีโอกาสในการลองบุหรี่กระดาษเป็น 6 เท่าของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ นายหลิ๋น เหลียงชิ่ง (林良慶) หัวหน้าฝ่ายกิจการกิจการนักศึกษาและความปลอดภัยของสถานศึกษา สำนักงานการศึกษาภาคบังคับ K-12 กล่าวว่า นอกเหนือจากการดำเนินการห้ามสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องในสถานศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและต่ำกว่า ปัญหาของบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ได้รวมอยู่ในเนื้อหาการป้องกันการสูบบุหรี่และใช้ยาเสพติดในสถานศึกษา มีการส่งเสริมให้นักเรียนทราบข้อมูลที่ถูกต้องและกำหนดให้โรงเรียนทุกระดับชั้นมีการจัดระเบียบห้ามมิให้นักเรียนและเจ้าหน้าที่ในสถานศึกษาพกพาและสูบ
นายหวัง อิงเหว่ย (王英偉) ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพกล่าวว่า บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายในไต้หวัน ตามมาตรา 14 ของกฎหมายป้องกันอันตรายจากยาสูบ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือปรับเป็นเงิน 50,000 เหรียญไต้หวัน จากมุมมองของการปกป้องสิทธิด้านสุขภาพของเด็ก รัฐบาลกำลังส่งเสริมการแก้ไขกฎหมาย "การป้องกันอันตรายจากยาสูบ" อย่างจริงจังเพื่อควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบที่เกิดขึ้นใหม่อย่างเข้มข้น
การเผชิฐกับความจริงที่ว่าผู้ค้ายาสูบยังคงแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในยาสูบและนิโคตินเพื่อดึงดูดคนหนุ่มสาวอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกแวดวงในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเครือข่ายป้องกันการสูบบุหรี่ในคนหนุมสาว ไม่ให้บุหรี่ควบคุมอนาคตของพวกเค้า