นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนยังน้อยมาก โดยแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 33 แห่ง และแหล่งน้ำขนาดกลาง 220 แห่งมีปริมาณน้ำใช้อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าร้อยละ 30 ซึ่งวันที่ 8 ก.ค.นี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะประชุมร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อปรับแผนการเติมน้ำเข้าเขื่อน พร้อมทั้งรับมือกรณีพายุไม่พัดผ่านประเทศไทยอาจส่งผลให้การทำฝนหลวงเป็นไปได้ยาก
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีทีมปฏิบัติการฝนหลวงกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาครวม 12 หน่วย และได้รับการสนับสนุนอากาศยานบางส่วนจากกองทัพอากาศและกองทัพบกเข้าร่วมปฏิบัติการ โดยติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่องทุกวัน หากพบว่ามีความเหมาะสมจะขึ้นบินทำฝนหลวงทันที เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาน้ำไม่เพียงพอและเติมน้ำเหนือเขื่อน
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์