img
:::

เมื่อวันที่ 13 เมษายน "มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 4 ราย" โดยได้เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด แบ่งออกเป็น บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ เอธิโอเปีย และไอร์แลนด์

เมื่อวันที่ 13 เมษายน "มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม  4 ราย" โดยได้เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด แบ่งออกเป็น บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ เอธิโอเปีย และไอร์แลนด์

[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่]  ผู้แปล/นงค์รักษ์ เหล่ากอคำ (李慧毓)

ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดกลางประกาศเมื่อวันที่ 13 เมษายนว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด -19 รายใหม่เพิ่ม 4  ราย ที่ได้เดินทางมาเข้าไต้หวัน แบ่งออกเป็น บังกลาเทศ (กรณีที่ 1060)  ฟิลิปปินส์ (กรณีที่ 1061)  เอธิโอเปีย (กรณีที่ 1062) และไอร์แลนด์ (กรณีที่ 1063)

ศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่1060 เป็นชายชาวไต้หวันวัย 40 ปี เขาได้เดินทางไปทำงานที่บังกลาเทศในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และเดินทางกลับไต้หวันในวันที่ 1 เมษายน โดยมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ หลังจากเดินทางมาถึงไต้หวันได้มีการเดินทางต่อไปยังโรงแรมเพื่อกักตัวทันที ในวันที่ 9 เมษายน มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลและไอเกิดขึ้น ต่อมาวันที่ 10 เมษายนหน่วยอนามัยนัดตรวจสุขภาพและยืนยันผลการวินิจฉัยในวันนี้ว่าติดโควิด สองวันก่อนมีอาการเขาได้กักตัวที่บ้านคนเดียว ซึ่งไม่มีการติดต่อกับผู้อื่นแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่มีรายชื่อกลุ่มเสี่ยง

ศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1061 เป็นชายชาวไต้หวันวัย 50 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์เป็นเวลานาน (ครั้งสุดท้ายที่เขาออกจากไต้หวันคือเดือนตุลาคมปี 2563) เนื่องจากเขามีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับโรคอื่นๆ ดังนั้นจึงได้เดินทางกลับมายังไต้หวันในวันที่ 11 เมษายน โดยมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ หลังจากเดินทางมาถึงประเทศแล้ว ได้เข้ารับการรักษาและตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที หลังผลการประเมินจำเป็นต้องย้ายโรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลจัดให้มีการย้ายและเข้ารับการตรวจอีกครั้งในวันถัดมา ในวันที่ 12 เมษายนกรณีนี้มีอาการหายใจไม่ออกเล็กน้อย ต่อมามีผลตรวจออกมาเป็นบวก ทั้งสองครั้ง และในวันนี้ ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าติด

ดดย (ค่า Ct เท่ากับ 20 และ 21 ตามลำดับ) กรณีดังกล่าวได้สัมผัสกับผู้โดยสาร 2 คนในสองแถวก่อนและหลังเที่ยวบินเดียวกัน และได้มีการกักตัวดูอาการอยู่

จากข้อมูลของศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดของโรคระบุ กรณีที่ 1062 เป็นชายชาวไต้หวันวัย 30 ปี เขาไปทำงานในเอธิโอเปียในเดือนตุลาคมปี 2563 เขามีอาการไอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และมีกลิ่นผิดปกติ ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 14 มีนาคม 2564  ตรวจพบโควิด 19  ในพื้นที่ วันที่ 26 มีนาคม ต่อมาในวันที่ 1 และ 7 เมษายนเข้ารับการตรวจครั้งที่สองผลออกมาเป็นลบ หลังจากนั้นเขาได้เดินทางกลับมายังไต้หวันเมื่อวันที่ 9 เมษายน โดยมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ เมื่อมาถึงเขาได้บอกกับทีมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคว่าตนเองมีอาการไอ และได้มีการตรวจอาการที่สนามบิน ผลออกมาเป็นลบ ต่อมาได้ดำเนินการตรวจอีกครั้งที่สถานีกักตัวส่วนกลาง ในวันที่ 12 เมษายน ผลเป็นบวก โดย (ค่า Ct 32, แอนติบอดีในซีรั่ม IgM และ IgG เป็นบวกทั้งคู่) กรณีนี้สัมผัสกับผู้โดยสารจำนวน 10 คน แบ่งออกเป็นผู้โดยสารสองแถวก่อนและหลังที่เดินทางในเที่ยวบินเดียวกัน ซึ่งบุคคลเหล่านี้กำลังได้รับการกักตัวอยู่

ศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดของโรคระบุว่า กรณีที่ 1063 เป็นชายชาวไต้หวันวัย 20 ปี ที่ไปเรียนในไอร์แลนด์ ในเดือนกันยายนปี 2563 และเดินทางกลับไต้หวันในวันที่ 8 เมษายนปีนี้ โดยมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ ต่อมาได้มีอาการน้ำมูกไหล เมื่อเดินทางมาถึงไต้หวันเขาได้เดินทางต่อไปยังสถานที่กักตัวทันที ในวันนี้เคสนี้ได้รับการวินิจฉัยว่าติดโควิดเรียบร้อย โดยมี (ค่า Ct 22) เนื่องจากมีไข้ในวันที่ 12 เมษายน

จากสถิติของศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดของโรคขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมด 196,502 รายในประเทศจีน (ไม่รวม 194,709 รายในแผ่นดินใหญ่) ซึ่งมีผู้ติดเชื้อทั้งหมดในไต้หวันจำนวน 1,062 ราย ประกอบด้วย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำนวน 946 ราย, ผู้ป่วยในท้องถิ่น 77 ราย, กองเรือ Dunmu 36 ราย กรณีติดเชื้อในเครื่องบิน 2 ราย และไม่ทราบสาเหตุอีก 1 รายคือ (กรณี 530) โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 รายและอีก 1027 รายได้รับการปล่อยตัวจากการกักตัวแล้ว ที่เหลืออีก 24 คนยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไป

เมื่อวันที่ 13 เมษายน

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading