เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงการเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย ว่า การผ่อนคลายจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 มี 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ดำเนินการให้เข้ามาได้ทันที คือ นักธุรกิจ/นักลงทุน มีลงทะเบียนไว้ 700 คน และอยู่ใน Waiting List เมื่อเข้ามาจะต้องถูกกักตัวตามมาตรการ 14 วัน และกลุ่มที่ให้เข้ามาได้ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 หลังเสนอ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาเห็นชอบวันที่ 29 มิ.ย. คือ แรงงานฝีมือ/ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 15,400 คน คนต่างด้าว กรณีเป็นครอบครัวคนไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในไทยจำนวน 2,000 คน ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ประมาณ 2,000 คน ส่วนนี้ต้องถูกกักตัว 14 วันเช่นกัน
"ส่วนนักธุรกิจ/นักลงทุนหรือแขกของรัฐบาลที่เดินทางเข้ามาสั้นๆ เช่น ประชุมสัมมนา 2 วันแล้วกลับ หรือลงนามสัญญาวันเดียวแล้วกลับ จะเสนอ ศบค.ให้เริ่มวันที่ 1 ก.ค.ด้วย โดยต้องมีมาตรการขั้นตอนตรวจเชื้อว่าปลอดโควิดทั้งต้นทาง เมื่อเดินทางถึงไทย มีประกันสุขภาพแสนเหรียญ และมีการจัดทีมติดตามทางการแพทย์อย่างน้อย 1 คน เพื่อกำกับดูแลสังเกตอาการ" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขั้นที่ 2 กลุ่มที่จะขอให้ดำเนินการวันที่ 1 ก.ค.หรือเมื่อมีความพร้อม ได้แก่ กลุ่ม Medical and Wellness Tourism ซึ่งประมาณการว่าจะเข้ามาประมาณ 3 หมื่นคน โดยอาจเลือกไว้ในเขต กทม. ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย (ตามความพร้อม) และกลุ่ม Medical and Wellness Tourism ที่ผนวกกับการดำเนินงานด้าน Safety Tour หรือ SHA
ขั้นที่ 3 โครงการทราเวล บับเบิล (Travel Bubble) แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ มาตรการวิลลา ควอรันทีน จะเริ่ม 1 ส.ค. โดยกลุ่มเดียวกันที่เข้ามาแล้วพักกลุ่มก้อนเดียวกัน เพื่อสะดวกติดตามกำกับ เช่น เช่าบังกะโลชุดใหญ่ริมหาด บางคนมาอยู่เป็นสัปดาห์เป็นเดือนอยุ่แล้ว ก็อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด โดยจะเปิดบริการแบบนี้เพื่อนำเงินเข้ามา รุปแบบที่ 2 คือ ผ่อนคลายมาตรการกักตัว แต่จะเริ่มดำเนินการเมื่อพร้อมและสังคมเชื่อมั่นในมาตรการ ตรงนี้ต้องรอไปอีกสักระยะ ส่วนกลุ่มประเทศยังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะตอนแรกหารือจีน ก็มีติดเชื้อปักกิ่ง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จะคุยก็มีติดเชื้อในประเทศก็ยืดออกไป ก็ต้องค่อยๆ คุยกัน
กรณีที่ยังคนไทยรอกลับประเทศอีก แต่โควตาเข้ามาได้วันละ 500 คน เมื่อจะเปิดให้ต่างชาติเข้ามา ควรรอให้คนไทยกลับก่อนหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จะมีการขอเพิ่มโควตาเป็น 600 คนต่อวันหรือมากกว่า นอกจากนี้ คนไทยที่ต้องการเดินทางกลับก็อาจเลือกเข้าพักสถานกักตัวแบบทางเลือกที่เป็นโรงแรมดีๆ จับมือกับ รพ.เอกชน ซึ่งยังมีห้องว่างอยู่ 605 ห้อง ก็จะกลับมาเพิ่มเติมได้ และอาจจะหารือโรงแรมในต่างจังหวัดเปิดเป็น Alternative Local Quarantine ด้วย ในจังหวัดที่มีสนามบินให้ต่างชาติลง เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย โดยจับคู่กับ รพ.เอกชน
ข้อมูลข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์