เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานและมอบประกาศเกียรติบัตรแก่ อสม.อำเภอพุทธมณฑลที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ว่า จากสถิติกรมอนามัยพบคนไทยโดยเฉลี่ยมีพฤติกรรมเนือยนิ่งที่ไม่รวมการนอนสูงถึงเกือบ 14 ชั่วโมงต่อวัน เช่น การนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ การใช้คอมพิวเตอร์ การนั่งคุยกับเพื่อน การนั่งหรือนอนดูโทรทัศน์ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีน้ำหนักเกินและเกิดโรคอ้วน ทำให้เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และมะเร็งบางชนิด ดังนั้นหากส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางกายอย่างจริงจังจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ถึง 11,129 รายต่อปี และลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลด้วย
นายสาธิตกล่าวว่า โครงการ “อสม.ชวนขยับ” จะให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 1 คนรับผิดชอบชวนคนมาร่วมออกกำลังกาย 10 ครอบครัว เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนใส่ใจดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองในรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมแต่ละวัยโดยวิธีง่าย เช่น เดิน วิ่ง รำไทเก็ก หรือ คีตะมวยไทย เป็นต้น อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้ง ๆ ละ 30 นาที
นายสาธิตเชื่อว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งดีจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกในเด็ก รักษาความแข็งแรงของกระดูกในวัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโต ชะลอความเสื่อมของกระดูกในช่วงวัยสูงอายุ อีกทั้งยังช่วยในการย่อยและดูดซึมอาหาร ลดท้องอืดท้องเฟ้อ ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดความอ้วน มีสมาธิในการทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า ลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับได้ดี ชะลอความแก่ ยืดอายุด้วย
ข้อมูลข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์