นายแพทย์หม่า เผ่ยเต๋อ (馬培德) ผู้ที่มีผมสีเงินขาว มีโครงหน้าที่ชัด ที่กำลังเตรียมอุปกรณ์การฝังเข็ม เป็นชาวเยอรมัน ปัจจุบันเป็นแพทย์แผนจีนประจำคลินิคแพทย์แผนจีนเจี้ยนหยาง (健祥中醫診所) และเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ในภาควิชาแพทย์แผนจีนของมหาวิทยาลัยการแพทย์จีน (中國醫藥大學) โดยเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายแพทย์หม่า เผ่ยเต๋อได้รับสัญชาติไต้หวัน และกลายเป็นชาวไต้หวันอย่างเต็มตัว
นายแพทย์หม่า เผ่ยเต๋อสามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว และยังมีสำเนียงที่เหมือนกับคนท้องถิ่นอีกด้วย แม้แต่ความชอบก็ยังเหมือนคนไต้หวัน นายแพทย์หม่าชื่นชอบรับประทานเต้าหูเหม็นในตลาดกลางคืน และเมื่อพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพแบบการแพทย์แผนจีน นายแพทย์หม่าก็มีความรู้ในด้านนี้ตั้งแต่ยุคโบราณของจีนจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ นายแพทย์หม่ายังได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมีไอดอลเป็นหลี่ เสี่ยวหลง (李小龍) และหง จินเป่า (洪金寶) และชื่นชอบชมภาพยนตร์ที่พวกเค้าเล่น และด้วยความสนใจในวัฒนธรรมตะวันออกและการแพทย์แผนจีน ก็ทำให้โชคชะตานำพานายแพทย์หม่ามายังไต้หวัน
นายแพทย์หม่า เผ่ยเต๋อเผยว่าเนื่องจากความสนใจในการแพทย์แผนจีน จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาเรียนภาษาจีน และศึกษาต่อด้านการแพทย์แผนจีนที่ไต้หวันในปี 1998 หลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนจีน นายแพทย์หม่าก็ได้ตัดสินใจตั้งรกรากอยู่ที่ไต้หวัน แต่เส้นทางชีวิตในไต้หวันก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เนื่องจากปัญหาด้านประกันสุขภาพของบุตรและปัญหาด้านการพำนัก ทำให้ตัวเค้าและภรรยาคิดจะกลับไปใช้ชีวิตที่ประเทศเยอรมันนีอีกครั้ง แต่โชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากภรรยา ทำให้นายแพทย์หม่ายังคงใช้ชีวิตอยู่ที่ไต้หวัน
นายแพทย์หม่ามีความเป็นคนไต้หวันมากกว่าชาวไต้หวันหลายคน เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้ ได้รับสัญชาติไต้หวันจากกระทรวงมหาดไทย สำหรับเขา การอยู่ไต้หวันมา 12 ปี มีความตื่นเต็นเป็นอย่างมากที่ได้กลายเป็นชาวไต้หวันเต็มตัว
นายแพทย์หม่ากล่าวว่า การได้รับบัตรประจำตัวประชาชนก็หมายความว่าคุณสามารถลงคะแนนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในปีหน้าได้ เป็นการสัมผัสสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองเป็นครั้งแรก
นายโจว์ โหย่วเริ่น (周佑仁) ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สถานีบริการที่ 1 นครไถจงกล่าวว่า การลงคะแนนเสียงในระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นสิทธิของชาวไต้หวัน นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ทุกคนหวงแหนสิทธิที่รัฐมอบให้แก่ประชาชนชาวไต้หวัน ต้องปฎิเสธการติดสินบนและการซื้อสิทธิขายเสียงด้วย เพื่อรักษาค่านิยมหลักของความยุติธรรมในการเลือกตั้งและการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
